ในสังคมเราหรือผู้คนที่อยู่รอบๆตัวเรา คนบางคนนั้นโตแต่ตัว แต่ความคิดนั้นยังเป็นเ ด็ ก แต่เ ด็ กบางคนอายุน้อยแต่ความคิดนั้นกลับเป็นผู้ใหญ่แล้ว แบบนี้การเป็นผู้ใหญ่ที่แท้จริงต้องเป็นอ ย่ างไรกันแน่
วันนี้เราได้รวบรวม 5 วิ ธีคิด ที่จะช่วยให้คุณกล า ยเป็นผู้ใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จ และมีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ลองดูว่าแต่ละวิ ธีคิดคุณอยู่ใน Level ไหน ถ้าคุณมีระดับ1 ก็มีโอกาสพัฒนา ให้ดีขึ้นต่อไปได้
1.ใจกว้าง
ระดับที่ 1 เรียนรู้ได้
ถ้าเราเปิดใจออ กให้กว้าง เราจะมีพื้นที่เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ได้อีกมาก เพราะ เข้าใจว่าความรู้ในตัวเรานั้น มีน้อยนิด เหมือนเป็นน้ำครึ่งแก้วที่มีวันเติมได้อีกเรื่อย ๆ พร้อมที่จะเรียนรู้ เรื่องราวต่าง ๆ ด้วยใจที่ปราศจากอคติ
เปิดใจรับฟัง สนใจอ่ า น มากขึ้น ชอบพัฒนาตนเอง และเรียนรู้วิ ธีการเปลี่ยนพฤติก ร ร ม หรือปรับวิ ธีคิดของเรา เพื่อชีวิตที่สงบและพบความสุขมากขึ้น เพราะ มีความเชื่อว่า คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ เพียงแค่ให้โอกาสตัวเองได้เปลี่ยนแปลงเท่านั้น
ระดับที่ 2 ยอมรับได้
การยอมรับความจริง ทำให้เราเป็นอิสระ และไปต่อได้ สามารถยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองได้ และยอมรับในความแตกต่างของกัน และกัน ยอมรับในความคิดเห็นของคนอื่น ไม่ตัดสินคนอื่น ถ้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ จะทำให้เราพอใจในชีวิตของตัวเอง และเข้าใจคนอื่น มากขึ้น เช่น ถ้าอ กหั ก แล้วยอมรับว่า คนนั้นไม่ใช่คู่แท้ของเรา ก็จะเปิดใจรอคนที่ใช่ได้เร็วขึ้น
ระดับที่ 3 ให้อภั ยได้
การให้อภั ยตัวเอง ทำให้เราเป็นอิสระจากความรู้สึกผิ ด และพร้อมที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นได้ และการให้อภั ยคนอื่น จะทำให้เรายอมรับในสิ่งที่เขาเป็น มากขึ้น และเป็นอิสระ จากความไม่พอใจหรือคิดแค้นโ ท ษคนอื่น แถมยังเป็นแรงผลักดัน ให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อีกด้วย แม้ว่าความสัมพันธ์อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่อย่ างน้อยก็ไม่ทำให้เรายึดติดอยู่ กับอ ดีตอีกต่อไป
2. มอ งไกล
ระดับที่ 1 อ ดทนได้
เมื่อเรามองไกล มองเห็นถึงอนาคต ของปัจจุบันที่กำลังทำอยู่ รู้ว่าถ้าอ ดทนแล้วจะได้ดี รู้ว่าอ ดกลั้นแล้วจะผ่านไปได้ด้วยดี เช่น อ ดทนกับความเหนื่อยย าก เพราะ รู้ว่าถึงจะลำบาก สุดท้ายก็สบายทีหลัง อ ดกลั้นที่จะไม่ทำร้ า ยจิตใจคนอื่น เพราะ รู้ว่าสุดท้ายแล้วเราจะได้ไม่รู้สึกผิ ด หรืออ ดกลั้นกับความสะดวกสบายชั่ วคราว เพื่อให้ได้รับความสุข ระยะย าวในภายหลัง เช่น อ ดทนประหยัดเงิน หารายได้พิเศษ เพื่อจะได้ชำระห นี้ได้หมดเร็ว ๆ หรืออ ดทนไม่เล่นโซเชียลมีเดีย ในเวลางาน จะได้ทำงานส่งทันเวลา และกลับบ้านได้เร็ว เป็นต้น
ระดับที่ 2 คิดย าวได้
เวลาที่เราคิดสั้น มักจะหุนหันพลันแล่น ทำอะไรไปโดยไม่คิด หงุดหงิดง่าย แต่ถ้าเราคิดย าวเมื่อไหร่ จะได้ความเข้าใจชีวิต ที่มากขึ้น เช่น เรารู้ว่าที่ตั้งใจอ่ า นหนังสือเรียน เพื่ออะไร ออ กกำลังกายไปเพื่ออะไร มีระเบียบวินัยไปทำไม
ขยันทำงาน รับผิ ดชอบในหน้าที่ไป เพื่ออะไร รู้ว่าเวลาไหนควรทำงานหรือเรียน เพื่อให้มีเวลาพักและเล่นได้นานขึ้น และเราจะเ สี ยโอกาสอะไร หากเราไม่ลงมือทำทันที รวมทั้งเข้าใจธรรมชาติ ของชีวิตที่เหมือนฤดูกาล
มีทุ ก ข์ มีสุข หมุนเวียนกันไป ไม่มีอะไรอยู่ได้นาน หรือยั่งยืน เมื่อเข้าใจชีวิตมากขึ้น เราก็จะปล่อยวางได้ง่ายขึ้น และยอมรับสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาได้มากขึ้น ไม่ยึดติดอยู่ กับสิ่งใดนาน ๆ เพราะรู้ว่าอีกเดี๋ยวก็ผ่านไป
ระดับที่ 3 ตั้งเป้าได้
เมื่อเราเริ่มคิดถึงอนาคต และถามใจตัวเองว่า เราจะอยู่เพื่ออะไร ถ้าเราไม่มีเป้าหมายอะไรเลย เราจะกล้าตัดสิน เพื่อตัวเองง่ายขึ้น เริ่มตั้งเป้าหมายในชีวิต ออ กมาจาก Comfort Zone เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง พัฒนาตัวเอง ทำสิ่งที่อย ากทำ และทำฝัน ให้เป็นจริง
3.ยืดหยุ่น
ระดับที่ 1 ปรับแผนได้
มีแผนสอง แผนสาม หรืออย่ างน้อย ก็สามารถปรับเปลี่ยนแผนที่กำหนดไว้ได้ ไม่ใช่ตึงเปรี๊ยะ จนไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้อีก เพราะการวางแผน เป็นการคิดล่วงหน้า สามารถคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้ว่า ถ้าเราทำสิ่งนี้ ผลลัพธ์มันน่าจะเป็นอะไร แต่เราไม่สามารถฟันธงได้ว่า มันจะเกิดขึ้นแน่นอน และทุกอย่ างไม่ได้เป็นอย่ างที่ใจต้องการทั้งหมด จึงไม่สามารถ ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่ างได้
ระดับที่ 2 ปรับตัวได้
ทำตัวให้เหมือนกับน้ำ ที่สามารถปรับไปต ามสภาพของภาชนะ คือ เข้าได้ใน ทุกสถานการณ์ แต่ไม่สูญเ สี ยความเป็นตัวของตัวเอง เป็นเหมือนต้นไม้ ที่ลู่ไปต ามแรงลมได้ แต่ก็กลับมาตั้งตรงได้เหมือนเดิม ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำ เมื่อได้วางแผนไปแล้วก็คือ เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถรับมือได้ จัดการได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่ างไรก็ต าม
ระดับที่ 3 เผชิญหน้าได้
สามารถเผชิญหน้า กับปัญหาอุปสรรคและความท้าทายได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน งานเยอะ งานย าก งานหนัก เราก็สามารถจัดการได้ เพราะ เชื่อในความสามารถของตัวเอง
4.คิดบวก
ระดับที่ 1 ขอบคุณได้
เมื่อเราคิดบวก จะรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามี ขอบคุณโอกาสที่ได้รับ ขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่คนอื่ นหยิบยื่นให้ โลกภายในใจเปลี่ยนไป มองว่าโชคดีมากขึ้น และเมื่อขอบคุณบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย จะรู้สึกถึงความพอเพียง พอใจ ภูมิใจในตัวเอง เชื่อมั่น และมั่นใจในตัวเอง และมีความสุขมากขึ้น
ระดับที่ 2 โฟกัสได้
เมื่อเรารู้ว่าอะไรดี ไม่ดี เราจะเลือ กโฟกัสในด้านดี ๆ เห็นด้านดี ๆ ในตัวเอง มากขึ้น เผยด้านดี ๆ ในตัวเองออ กมา พร้อมทั้งโฟกัสด้านบวกในตั วคนอื่นได้ดีขึ้น มองเห็นจุดเด่นของคนอื่น มองข้ามข้ อเ สี ย ของคนอื่น หรือถ้าเป็นเรื่องงาน มีปัญหาความท้าทายเข้ามา ก็สามารถมุ่งความสนใจไปที่การทำงานให้ผ่านไปได้ด้วยดี มากกว่าที่จะโฟกัสในด้านลบ บั่นทอนจิตใจทำให้ทำงานได้ช้าลง
ระดับที่ 3 พลิกกลับได้
ในสถานการณ์ที่ไม่ดี สามารถมองเห็นโอกาส ที่ซ่อนอยู่ในนั้น เชื่อว่า ความท้าทายจะทำให้เราเป็นคนเก่งและแกร่งขึ้น รับมือ กับปัญหา และอุปสรรคได้เร็วขึ้น เพราะ ใจที่พร้อมเสมอ กับการเปลี่ยนแปลง แม้จะมีความทุ ก ข์ผ่านเข้ามา ก็ไม่ทุ ก ข์นาน เพราะรู้ว่ามันเหมือนฤดูกาลที่สุดท้ายก็พัดผ่านไป
5.ปล่อยวาง
ระดับที่ 1 รอคอยได้
ถ้าเราได้ทำอย่ างเต็มที่แล้ว ที่เหลือก็แค่ปล่อยวาง เราไม่สามารถ ควบคุมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่สามารถจัดการได้ เ ด็ กส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าปล่อยวาง เพราะ มักจะมีอารมณ์ร้อน อย ากเห็นผลลัพธ์ในทันที แต่ต้นไม้ไม่สามารถ งอ กแล้วโตได้ในวันเดียว คอนโดมิเนียมไม่สามารถสร้างเสร็จในวันเดียว จึงต้องรู้จักการรอคอย และมีความสุข ในระหว่างทาง
ระดับที่ 2 สม่ำเสมอได้
เช่น ถ้าเราอย ากมีหุ่นดี ก็ต้องขยันออ กกำลังกาย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้ฟิตและแข็งแรง ซึ่งไม่สามารถทำได้ในวันเดียว ต้องทำอย่ างสม่ำเสมอ หรือถ้าเรา อย ากจะเก่งในเรื่องอะไร มันไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ แต่เป็นเรื่องของความสม่ำเสมอในการฝึกซ้ำ ๆ จนชำนาญ ซึ่งก็ควรจะฝึกด้วยความรู้สึกดี มีความสุข ไม่ใช่เร่งวันเร่งคืน เพื่อให้ถึงวันที่ต้องการ
ระดับที่ 3 เชื่อใจได้
เชื่อว่าสุดท้ายมันจะเป็นไปได้จริง เชื่อว่าแต่ละคน มีจังหวะเวลาชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเราปล่อยวางเป็น เราจะมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน และมั่นใจว่าผลลัพธ์ ที่เกิดไม่ว่าจะเป็นอะไร มีแต่ดีกับดี เช่น ถ้าผลลัพธ์ออ กมาดี ก็สุขใจ แต่ถ้ามีความท้าทายเกิดขึ้น แสดงว่าความท้าทายนั้น จะมาฝึกให้เราปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่ าง เพื่อให้ผลลัพธ์ออ กมาดีได้อย่ างแท้จริง
ความคิดของคนเรา สามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้เสมอ หากใช้วิ ธีการที่เหมาะสม ลองเขียนบันทึกประจำวันลงไปในไดอารี่ Diary ว่าเราคิดอย่ างไรกับตัวเอง มองคนอื่นในด้านไหน หรือเรียนรู้อะไร จากเหตุการณ์ในวันนี้
จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่า มีความคิดแบบผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นการเขียนบันทึกในเชิงคิดบวก เขียนขอบคุณ เพราะจะฝึกให้เราสามารถคิดเป็น เรียนรู้ชีวิต และพลิกความคิด ให้เป็นบวกได้
แม้เ ด็ ก ๆ จะรู้สึกว่า ไม่อย ากโตมาเป็นผู้ใหญ่ ต้องรับผิ ดชอบอะไรหล า ย ๆ อย่ าง แต่การเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เรามีอิสระทางความคิด สามารถ เลือ กทำในสิ่งที่อย ากทำ แต่จะต้องไม่ลืมว่า จะต้องรับผิ ดชอบ ในการกระทำที่เราเลือ กด้วย ถ้าเราคิดแบบผู้ใหญ่ ต่อให้เราอยู่ในสถานการณ์ไหน ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี แล้วจะกลัวอะไร กับการเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเรามีวิ ธีคิดที่ดี
ที่มา aromyendee