มีเ งิ นล้ า นก้อนแรกได้ง่ายๆ แค่รู้จัก 4 ข้ อนี้

ชีวิตคนเราเกิดมาต้นทุนไม่เท่ากันก็จริง แต่ทุกคน มีเวลา มีความคิด มีมือ มีสมองที่เหมือนๆกัน เพราะฉนั้นการที่เราจะทำสิ่งต่างๆให้ประสบความสำเร็จได้ การมีความรู้ มีวินัย ฝึกฝนบ่อยๆ วันนี้เราจึงจะพามาดูวิ ธีที่คน มีเ งิ นล้ า นเขาทำกัน จะเป็นอ ย่ างไรเราไปดูกันเลย

การหาเ งิ นล้ า นแรก สำหรับบางคน อาจเป็นคำพูดที่ฟังดูเหมือนการหมกมุ่นกับเ งิ นหรือความร ว ยเพียงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเป้าหมายหาเ งิ นล้ า นแรกมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น เพราะเป้าหมายนี้สำหรับหล า ยๆ คน ไม่ใช่เรื่องง่าย

ต้องใช้พลังใจทั้งความเพียรและความมุ่งมั่นอ ย่ างมาก นอ กจากนี้ ระหว่างทางไปสู่จุดหมายก็จะช่วยขัดเกลากรอบนิสัยให้เรามีวินัยทางการเ งิ นที่แข็งแรง และ ร ว ย อ ย่ างมั่นคง

สร้างเครือข่าย Connection ที่มีคุณภาพ

ปัจจัยข้ อสำคัญที่จะทำให้คนคนหนึ่งหรือธุรกิจธุรกิจหนึ่งเติบโตขึ้นได้อ ย่ างรวดเร็วนอ กจากความ เก๋า หรือ กึ๋น ของเจ้าตัวแล้ว ก็มาจาก Connection ที่กว้างและแข็งแรง เพราะการจะเติบโตได้จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้อื่น

กระทั่งการเรียนรู้งานจากผู้อื่นเองก็สำคัญเช่นกัน การมี Connection นั้น หล า ยคนอาจมองว่าหมายถึง การเล่นเส้น ซึ่งมีความหมายค่อนข้างแย่ แต่จริงๆ การสร้างเครือข่ายที่ดี มีคุณภาพ หมายถึง การที่เราร่วมแรงร่วมใจ ผลักดัน สนับสนุนกัน

หรือ การสร้างชุมชนที่เราจะร่วมแบ่งปันความรู้และความฝัน เมื่อเส้นทางใดที่มีเพื่อนร่วมเดิน เรามักจะไปได้ไกลกว่าการเดินเพียงลำพัง นอ กจากนี้ การนำตัวเองไปอยู่ในสังคมที่แวดล้อมด้วยคนที่มีแนวคิดการเ งิ นและการทำงานที่ดี จะช่วยปรับทัศนคติ Attitude และแนวคิด Mindset ของเราให้ดีหรือเอื้อต่อความสำเร็จยิ่งขึ้นด้วย

เป็นเจ้าของระบบที่สร้างเ งิ นได้ด้วยตัวเอง

Robert T. Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือด้านการเ งิ นชื่อ ดังอ ย่ าง Rich Dad & Poor Dad และเจ้าของผลงาน Best seller อีกหล า ยเล่ม

ได้เขียนถึงวิ ธีการหาเ งิ นไว้ในหนังสือ Cashflow Quadrant หรือที่รู้จักกัน คือ เ งิ น 4 ด้าน โดยวิ ธีการหาเ งิ นนั้น มีอยู่ 4 วิ ธี ซึ่งแบ่งออ กเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1.ไม่ทำงานก็ไม่มีเ งิ น ได้แก่ คนที่เป็นลูกจ้าง และคนที่เป็นนายจ้างตัวเอง

2.ไม่ทำงานก็ยังมีเ งิ น ได้แก่ คนที่เป็นเจ้าของระบบหรือ กิจการที่ดำเนินไปได้เอง และนักลงทุน

แน่นอนว่า วิ ธีที่จะหาเ งิ นล้ า นได้ง่ายกว่า คือ วิ ธีหาเ งิ นในกลุ่มที่ 2 ซึ่งในหัวข้ อนี้พูดถึง การเป็นเจ้าของกิจการหรือสร้างระบบให้งานขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง หรือ Business Owner

การเป็นเจ้าของกิจการ คือ การทำงานเพื่อตัวเอง และจ้างผู้อื่น มาทำงานให้เรา เป็นวิ ธีหาเ งิ นล้ า นที่จำเป็นต้องลงแรงหนักเพียงช่วงก่อตั้ง ตั้งแต่การคิดโมเดลธุรกิจ การหาแนวทางให้กิจการเป็นที่รู้จัก และ ข า ย ได้ รวมถึงการวางระบบการทำงานต่างๆ และการคัดสรรพนักงาน Employee

เพื่อมาทำงานต ามระบบที่วางไว้ และเมื่อระบบกิจการของคุณแข็งแรงดี มันก็จะขับเคลื่อนไปได้ด้วยตัวของมันเอง เหมือนการผลักเฟืองหอนาฬิกาเพียงครั้งเดียว แม้อาจต้องใช้พละกำลังมาก แต่ผลที่ได้คือนาฬิกาที่หมุนได้เป็นเดือนหรือนานเป็นปี

นอ กจากนี้ ในปัจจุบันเป็นยุคของ Startup เป็นยุคของ The Ordinary หรือ คนธรรมดา ที่ลุกขึ้น มาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่มีอิทธิพลต่อโลก โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างระบบและให้ระบบหรือคอมพิวเตอร์เป็นฟันเฟืองที่ทำงานแทน มนุษย์ ทำให้ต้นทุนที่เป็นตัวเ งิ นต่ำมากๆ

แต่อาจเติบโตได้มากกว่า 100 เท่า เช่น ธุรกิจที่เป็นสื่อ กลางระหว่างลูกค้าและผู้รับจ้าง ธุรกิจเกี่ยวกับการให้ข้ อมูล ธุรกิจทำบัญชีแบบ out source ฯลฯ

เก็บออมสินท รั พ ย์

ในอ ดีต หากอย ากร ว ย เรามักถูกสอน มาว่า ต้องเก็บออมเ งิ นให้มากๆ แต่สำหรับปัจจุบัน การ ฝังเ งิ นลงดิน หรือเก็บเ งิ นไว้เฉยๆ นั้นหมายถึง การปล่อยให้เ งิ นเสื่อมมูลค่าลง จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนตลอ ดเวลาหรือเ งิ นเฟ้อ การเก็บออมในยุคนี้ ควรเป็นการสะสมสินท รั พ ย์

เพราะสินท รั พ ย์หมายถึงสิ่งที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นได้ โดยสิ่งที่เราจะเก็บออมสินท รั พ ย์นั้น จริงๆ แล้ว คือ การเปลี่ยนเ งิ นเป็นสินท รั พ ย์ประเภทต่างๆ ซึ่งจะยังคงมูลค่าหรือเพิ่มมูลค่าจากเ งิ นตั้งต้น เช่น เ งิ นฝาก หุ้น กองทุน บ้าน ทองคำ หรือสิ่งของอื่นๆ ที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นต ามกาลเวลา เป็นต้น

ลงทุนกับการศึกษาและพัฒนาตนเอง

สิ่งที่เป็นพื้นฐานก่อนที่จะออ กไปหารายได้ให้มากขึ้น คุณควรเพิ่มพูนความรู้และลงทุนกับการพัฒนาตัวเองก่อน ซึ่งเปรียบเสมือนการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออ กเดินทางความรู้แรกที่ควรมี คือ ความรู้ด้านการเ งิ น

เพราะความรู้เรื่องเ งิ นคือปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้คุณสร้างเ งิ นล้ า นแรกขึ้น มาได้ คุณควรเริ่มจากการใส่ใจการใช้จ่าย ศึกษาวิ ธีบริหาร และการลงทุน หาความรู้จากแหล่งต่างๆ เช่น อ่ า นหนังสือหรือบทความในอินเทอร์เน็ต พูดคุยกับคนที่มีความรู้ ดูรายการด้านการเ งิ น หรือ กระทั่งลงเรียนคอร์สการเ งิ นต่างๆ เป็นต้น

ที่มา  forlifeth