หลักความคิดของคนร ว ย ที่คิดต่างจากคนทั่วไป

คนที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องความร ว ย ล้วนไม่มีวันร ว ย คนพวกนี้เขาจะตั้งคำถามว่าทำอะไรถึงจะร ว ยข า ยออนไลน์ดีไหม เล่นหุ้นดีไหม หรือลงทุ นอสังหาริมท รั พ ย์ หรือเป็นนายหน้า

หรือข า ยของอะไรถึงร ว ย ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องความร ว ยสำหรับคนที่ต้องการเป็นนายตัวเอง ต้องการมีอาชีพอิสระ อย ากมีชีวิตที่ลงตัว อย ากมีนิสัยคนร ว ยติดตัว จะหยิบจับ จะทำอาชีพอะไรก็ร ว ย

การคิดแบบคนอื่นทั่วๆ ไป อาจทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้นแต่ยังห่างไกลคำว่าร ว ยอยู่มากโข วิ ธีคิดของคนร ว ย ที่จะมาแนะนำนี้ เป็นวิ ธีคิดที่ล้ำ แปลก แหวกแนว แต่ทำให้เราร ว ยขึ้น ถ้านำไปปรับใช้ได้ถูกวิ ธี ลองมาดู วิ ธีคิดของคนร ว ย กันบ้าง ว่าเขามีวิ ธีผลิตเงินอ ย่ างไร

การจ่ายเ งินซื้ อเวลา เพราะคนร ว ยพวกเขาจะคิดว่า เวลาคือเงิ น ประหยัด 1 ชั่ วโมง ไว้พัฒนาความสามารถตัวเอง แบ่งเวลาสัก 10 นาทีเพื่อเพิ่มมูลค่า ตัวเองให้สูง อ ย่ างการใช้เงิ นจ้างแม่บ้าน มาทำความสะอาดบ้านตัวเอง

ก็นั่งทำงานของตัวเอง ไปใช้เวลาตรงนั้น พัฒนาความสามารถ ในการทำงานจนสำเร็จ แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่า จ่ายเงิ นซื้ อเวลา คนเราพัฒนาขึ้นได้ มันก็ต้องหาตัวช่วยบ้าง

ดูแลกระเป๋าตัวเองให้ดี เพราะว่าสำหรับคนร ว ยแล้ว กระเป๋าเงิ นคือที่พักของเงิ น ฉะนั้นจึงต้องดูแล ให้ความสำคัญ พอๆกับเงิ น เมื่อพวกเขาเห็น กระเป๋าเ งิน ที่เต็มไปด้วยใบเสร็จรับเงิ น ที่ไม่จัดเรียงให้เรียบร้อย

เขาจะรู้สึกหงุดหงิดมัน ก็เหมือนกับคนเจ้าระเบียบ ที่เห็นของต่างๆ ในบ้านไม่เรียบร้อย แต่อ ย่ าแปลกใจ

ที่เห็นพวกเขาลงทุ นซื้ อ กระเป๋าแพงๆ เพราะสิ่งเหล่านั้น คงทนและเป็นที่เก็บรั ก ษ าเงิ นได้ดีมาก

ไม่ว่าใครก็เป็นคนร ว ยได้ ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ใดๆ หรือเรียนสูงก็ทำได้ หากอย ากเป็นคนร ว ย

เราต้องเปลี่ยน มโนภาพ ทางการเงิ น ให้เป็นบวกซะก่อน คิดเ สี ยว่าเราเป็นคนที่ร ว ยแล้ว แต่ถ้ายังพูดถึงเรื่องความต่างทางฐานะอยู่

เ สพติดแต่เรื่องความจน ความสำเร็จนั้นก็จะอยู่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน งั้นเริ่มต้นแบบเบาๆ ด้วยการจินตนาการภาพอนาคต ที่มีความสุข คิดภาพตัวเอง

กำลังนั่งอยู่บนรถยนต์ร า ค าแพง อาศัยอยู่ในบ้านหลังโต จินตนาการภาพชีวิตในอนาคต ว่าเราคือคนร ว ย แล้วสิ่งแวดล้อม ที่ห้อมล้อมเรา มันก็จะเปลี่ยนไปเองนั่นแหละ

ไม่กดเงิ นบ่อย เพราะการกำหนดช่วง และจำนวนเงิ นอ ย่ างคงที่ในการกด มันเป็นหนึ่ง ในนิสัยการจัดการเ งินที่ต้องทำ

เพื่อจะได้ให้รู้ ตั้งแต่ร า ยได้ของเดือน ว่าเรากดเงิ นจากบัญชีไปบ่อยแค่ไหน และพวกเขาจะกดเ งิน เดือนละครั้ง

สองครั้ง เพราะเขาต้องการควบคุมการจ่ายของตัวเอง ส่วนการกดเงิ นทีละน้อย จะทำให้

ไม่รู้ตัวว่ากดเงิ นใช้ไปแล้วกี่บ า ท ทั้งยังควบคุมย ากขึ้น คิดดูสิเดือนๆหนึ่ง การกดเงิ นใช้ทีละน้อยแต่ถี่ กับกดเงิ นทีละมากๆน้อยๆครั้ง แบบไหน

มันทำให้เราควบคุมเงิ นได้มากกว่า จัดบ้านให้เป็นระเบียบ บ้านคนร ว ย มีของน้อยถูกจัดวางไว้อ ย่ างเป็นระเบียบ การมีข้าวของวาง ไม่เป็นระเบียบ จะทำให้พลังของเงิ นเข้ามาไม่ได้ ในส่วนของห้องน้ำ

มันก็เป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็น ถึงลักษณะเฉพาะของบ้าน สังเกตดูสิ บ้านที่เก็บเงิ นได้จะเห็นว่า ห้องน้ำถูกรั ก ษ าให้สะอาดตลอ ด เพราะห้องน้ำคือสถานที่ที่

พลังความมั่งคั่งการใช้ชีวิตของคน เก็บเงิ น เก่งเรียกสั้นๆว่า มินิมัลลิสต์ พวกเขารู้ว่าวัตถุอะไรอยู่ตรงไหน เขาจึงรู้ด้วยว่า มีอะไรเหลืออยู่ จะได้ไม่ไปซื้ อสิ่งที่ไม่จำมาไงล่ะ

ตั้งเป้าหมายที่มันเป็นไปได้ เพราะคนร ว ย พวกเขาจะกำหนดเป้าหมาย ที่เป็นไปได้เสมอ และสัมผัสประสบการณ์ความสำเร็จ ไปทีละขั้นจากนั้นค่อยๆ ก้าวขึ้นไป เช่น คนทั่วไป ตั้งเป้าหมายจะหา เ งินล้านให้ได้

ในห้าปี แต่เหล่าคนร ว ย ตั้งเป้าให้สั้นกว่านั้น อ ย่ างเช่นต้อง มีเงิ นแสนในสามเดือน เพราะการดีใจ 1 ครั้งกับดีใจ 10 ครั้ง ต่างกัน มาก เพราะมันเกี่ยวกับแรงขับเคลื่อนที่มีมากขึ้น

ลงทุ นกับสุ ข ภ า พของเรา เรื่องนี้เป็นใหญ่ พอๆกับการหาเ งินเลยล่ะ พวกเขาจะเจียดเวลา มาออ กกำลังกาย แม้งานจะยุ่ง

เพราะเขารู้ว่าสุ ข ภ า พคือ ท รั พ ย์สิน ที่ต้องรั ก ษ าไว้อ ย่ างที่รู้ๆกันว่า สุ ข ภ า พเมื่อมันเ สี ยไป

เอากลับมาไม่ได้ ฉะนั้นการออ กกำลังกาย วันละ 15 ถึง 30 นาที ก็เพียงพอแล้ว นี่คือสิ่งที่ช่วยดูแลสมอง ให้สุ ข ภ า พให้ดีขึ้นได้

ทำให้พร้อมลุยงาน ไม่เก็บแต่เงิ นอ ย่ างเดียว เพราะคนร ว ยจะคิดว่า การใช้เงิ นสำคัญ พอ กับการเก็บเงิ นเลย หากเอาแต่เก็บ

อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เพราะการไหลของเ งินถูกปิด ไม่ว่าจะเป็นตอนใช้ ตอนเก็บหรือตอนลงทุ นเขา จะคิดถึงคุณค่า ในอนาคตเสมอเราจงคิดว่า เราจะใช้เงิ นอ ย่ างไร มันจึงจะได้ผลตอบลัพธ์ในระยะย าว ที่คุ้มค่าคืน มามากกว่านะ

ที่มา tamnanna jinfinity amarinbooks  stand-smiling