10 เรื่องควรรู้ ใช้ในย ามจำเป็น เมื่อเราใช้รถเป็นประจำทุกวัน

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการใช้รถยนต์เป็นประจำทุกๆ วัน กับบทความ 10 เรื่องควรรู้ ใช้ในย ามจำเป็น เมื่อเราใช้รถเป็นประจำทุกวัน ไปดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรจำไว้ให้ขึ้นใจ

คน มีรถต้องรู้นะคะ เผื่อจำเป็นต้องใช้ เวลาเราขับขี่รถบนท้องถนนนะคะ เราต้องมีความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนเอาไว้บ้าง เผื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ ในกรณีฉุกเฉิน เราจะได้ไม่ตกใจมากจนเกินไป บางครั้ง เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคาดฝัน ก่อให้เกิดความเสียห า ยมากมาย เราก็โทรเรียก ป ร ะ กัน มาเคลียร์ แต่หากตัวเราเกิดเหตุขึ้น มาแล้วดันไม่มีใบขับขี่นั้น ต้องบอ กก่อนเลยนะคะว่า ป ร ะ กันไม่รับเคลมทุกกรณี หล า ยคนอาจจะยังไม่เข้าใจหล า ยๆ อย่ าง วันนี้เราจึงรวบรวมมาฝากค่ะ

สำหรับ 10 นี้เป็นสิ่งที่ดีมี ป ร ะ โยชน์ต่อผู้ที่มีรถขับขี่บนท้องถนนเป็นอย่ างมาก แนะนำผ้าควรที่จะรับรู้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อใช้เป็นสิทธิ ป ร ะ โยชน์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด แค่คุณอ่านทำความเข้าใจรอบนึงก็สามารถที่จะรู้คร่าวๆแล้วว่า อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ แต่ถ้าหากอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ หรือคิดว่าจำไม่ได้หากเกิดเหตุหรือมีปัญหาขึ้น แนะนำว่าให้เซฟข้อมูลเก็บไว้ที่หน้าเฟซของตัวเอง พอมีปัญหาหรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น มาสามารถเก็บข้อมูลนี้มาใช้งานได้เลยทันที

กรณีเมาแล้วขับ

เมาแล้วขับ สำหรับเหตุการณ์นี้ทางด้าน ป ร ะ กันจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีแอลกอฮอล์เกินระดับ 150 ขึ้นไป หากไม่เมาเกินลิมิตที่ตั้งเอาไว้ ทางด้าน ป ร ะ กันจะจ่ายให้ แต่ควรระมัดระวังข้อห้ามเมาแล้วขับ หากเกิดปัญหาจนต้องเข้าร่วมแรง ถ้าไม่มีหลักฐานในการเจาะโลหิตตรวจเช็ค ป ร ะ กันก็จะต้องจ่าย

กรณี ตัวเลขทะเบียน เลขรถ สีรถ และภาษีข า ด

ไม่ว่าอะไรก็ต าม ป ร ะ กันจะยึดตัวเลขถังรถเป็นหลัก หาตัวเลขถังรถของคุณตรงกับเอกสารที่ ป ร ะ กันจะต้องดำเนินการ ป ร ะ กันก็จะต้องจ่าย ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าสีรถจะไม่ตรง ป้ายจะไม่ตรง หรือภาษีข า ด

กรณีที่เราไม่มีใบับขี่

เมื่อรถของเราทำ ป ร ะ กันชั้น 1 เอาไว้แล้วไปเกิดเหตุชนกับคนอื่น ไม่ว่าจะอย่ างไรก็ต าม ป ร ะ กันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทนคุณในทุกกรณี โดยสิ่งที่แตกต่างระหว่างมีใบขับขี่และไม่มีใบขับขี่นั่นก็คือ ถ้าไม่มีใบขับขี่ ป ร ะ กันจะไม่ซ่อมรถให้เรา แต่จะซ่อมให้คู่กรณี แต่ถ้าหากมีใบขับขี่ จะซ่อมให้ทั้งสองฝ่าย ในกรณีต้องการเปิดเคลมแห้ง เช่น หากรถมีรอยขีดข่วน ต้องการที่จะได้สีใหม่ เพียงมีคนที่มีใบขับขี่โทรแจ้งเคลมก็ได้

สำหรับรถที่มี ป ร ะ กันชั้น 2 และชั้น 3 โดยไม่มีใบขับขี่ ป ร ะ กันก็ต้องรับผิดชอบให้หมด

แต่ถ้าหาก ป ร ะ กันชั้น 2 แล้วรถห า ยหรือเกิดไฟ จำเป็นจะต้องมีใบขับขี่

รถที่ทำ ป ร ะ กันชั้น 2 3 พลัส มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ป ร ะ กันชั้น 1 แต่ต่างกันตรงที่ว่า ต้องเป็นรถชนกับรถ ที่มีป้ายทะเบียน มีเจ้าของเท่านั้นไม่เกี่ยวกับท รั พ ย์สิน

กรณีใบขับขี่โดนยึด

แนะนำว่าให้แสดงใบสั่งแทน หากหมดอายุก็สามารถนำมาใช้แสดงได้ เพราะทางด้าน ป ร ะ กันจะยึดว่านี่คือตัวผู้ที่คุ้มครองผู้ที่เคยได้รับใบอนุญาต ห า ยไป แนะนำว่าให้เอาตัวที่เป็นสำเนามาแสดงแทน

กรณีที่เกิดเหตุขึ้นบนถนนแล้วหาฝ่ายผิด

หากเราหาฝ่ายผิดกันยังไม่ได้ มาๆให้รีบตกลงแล้วรีบถอยรถออ กไปก่อน หากตกลงไม่ได้ให้เรียกตำรวจมาตัดสินใจโดยไม่ต้องรอ ป ร ะ กัน หากตัดสินใจไม่ได้อีกจำเป็นจะต้องไปโรงพัก

กรณีโดนชนแล้วหนี

หากรถของคุณมี ป ร ะ กันชั้น 1 ชั้น 2 3 หรือพลัส สิ่งที่จะต้องจำให้ได้ก็คือจะต้องทำทะเบียนรถให้ได้ให้เตรียมเอกสารใบขับขี่ให้เรียบร้อย ถ้าหากไม่มีให้นำคนที่มีใบขับขี่ไปทำการแจ้งความที่สน.ในบริเวณนั้น แล้วก็นำใบแจ้งความไปแจ้ง ป ร ะ กัน ถ้าหากเป็น ป ร ะ กันชั้น 1 แล้วจำทะเบียนไม่ได้ก็ให้แจ้งว่าชนอย่ างอื่นไปก็ได้

กรณี ทำ ป ร ะ กันชั้น 1

เวลาเคลมสีรถจะเปลี่ยนสีรถ สามารถทำได้โดยการแจ้ง ป ร ะ กันว่าเปลี่ยนสีรถ ป ร ะ กันจะยึดหลักเกิดเหตุจริงซ่อมจริง

กรณีเคลมอะไหล่

แล้วต้องการเปลี่ยนเป็นอะไหล่แต่งรถก็ทำได้ โดยนำรถไปที่บริษัทเพื่อทำการตกลงร า ค า แล้วก็เปลี่ยนได้ ทางด้าน ป ร ะ กันจะโอนค่าซ่อมคืนต ามมาให้ ในทุกๆครั้งที่เซ็นต์เอกสารสัญญาใดๆก็ต าม ต้องตรวจสอบความเสียห า ยให้ถูกต้องครบถ้วน

ที่มา parinyacheewit