12 นิสัยคนจะร ว ย อนาคตจะก้าวหน้า คนทั่วไปมักไม่ทำ

วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าคนจะร ว ยมันต้องเป็นยังไง แล้วที่เรายังไม่ร ว ยเพราะเราไม่มี 12 ข้อนี้เลยหรือเปล่า จะใช่ไหม เราไปดูพร้อมๆกันเลยจ้าาา

1. ชอบฟังเ สี ยงสะท้อนจากผู้คน

แม้แต่คนที่ร ว ยแล้ว ก็ไม่ได้คิดถูก ทำถูกทุกเรื่องทุกครั้ง และเขารู้ว่าถ้าไม่เปิดใจ รับฟังความเห็นก็ไม่มีทางรู้ตัว ได้อย่ างทันท่วงที ว่าอะไรกำลังผิ ดทาง อะไรที่คนไม่ชอบเขาจึงแสวงหาความเห็นจากคนรอบข้าง ทั้งเพื่อนคู่ค้าและลูกค้ า

แล้วถ้าฟังแล้วมีเหตุผลจริงก็ยอมรับ พร้อมกับเอามาปรับปรุงให้การงานต่างๆ กลับเข้าเส้นทางที่ถูกต้อง ส่วนคนที่กลัวความเห็นจากคนอื่น ก็เ สี่ ย ง มาก ที่จะล้มทั้งยืน เพราะไม่รู้ตัว/รู้ช้า ว่ากำลังเดินลงเหว และส่วนใหญ่ก็จะเดินลงเหว

คนร ว ยก็สามารถหลงเดินไปเส้นทางที่พาไปลงเหวได้เช่นกัน แต่เค้ารับฟังเ สี ยงเตือน ว่านั่นน่ะผิ ดทางอย่ างที่บอ กไว้แต่แรก ว่าคนร ว ยสร้างเอง ก็เกิดมาเป็นคนธรรมดา แต่ด้วยทัศนคติที่ใช่ และการกระทำที่ใช่ ผ่านการต่อสู้

ฝ่ าฟั น และปรับตัวคนธรรมดาก็ร ว ยได้ สำเร็จได้ด้วยตัวเอง และถ้าเราเชื่อว่า ทัศนคติที่ใช่นั้น สร้างได้ ไม่ต้องลุ้นให้มีติดตัวมาแต่เกิดแบบพรสวรรค์ เราก็สามารถสร้างทัศนคติที่ใช่ของเราเองได้เช่นกัน

2. ออ กกำลังกายเป็นประจำ

76เปอร์เซน ของคนร ว ย ออ กกำลังกายอย่ างน้อย 30 นาทีทุกวัน เพราะเขารู้ ว่าการออ กกำลังกายไม่ได้ดีต่อสุ ข ภ า พ ร่ า ง ก า ย เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ส ม อ ง ตื่นตัวอีกด้วย

3. แสวงหาที่ปรึกษาของชีวิต

ที่ปรึกษาไม่จำเป็นต้องอายุมากกว่า แต่สามารถเป็นเพื่อนที่มีประสบการณ์ในบางด้าน มากกว่าเคยทำบางอย่ างสำเร็จมาก่อนและที่ปรึกษาไม่ได้ช่วยพัฒนาชีวิตคนร ว ย เฉพาะด้านธุรกิจหรือ การเงินเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชีวิตส่วนตัวมีความสุข ผ่านพ้นปัญหาหล า ยรูปแบบที่ย ากๆ ได้ คือคนร ว ยจะไม่คิดเองทำเองด้วยตัวคนเดียว แต่ยินดีให้คน มาช่วยคิด ช่วยแนะนำสิ่งดีๆ อยู่เสมอ

4. อ่ านหนังสือเป็นประจำ

88เปอร์เซน ของคนร ว ย อ่ า นหนังสืออย่ างน้อย 30 นาทีทุกวัน และเป็นการอ่ า นเพิ่มความรู้เพื่อเอาไปใช้ต่อยอ ด ไม่ได้อ่ า นหนังสือบันเทิง

5. มีมารย าทดี ทำตัวเหมาะสม

คนร ว ยรู้ว่าในโอกาสไหนควรทำอะไร เช่น ส่งจดหมายขอบคุณ เมื่อได้รับความช่วยเหลือ กล่าวแสดงความยินดีเมื่อเพื่อนประสบความสำเร็จ ร่วมโต๊ะอ า ห า ร อย่ างสำรวม และแต่งตัวเหมาะสมไม่น้อยไม่มากเกิน อะไรที่เกินพอ ดี คือ ไม่ดี ส่วนหนึ่งก็เพื่อรั ก ษ า ความสัมพันธ์ แต่ส่วนหนึ่ง

ก็เพราะเขารู้จักใจเขาใจเรา รู้ว่า We are all humans คือทุกคน มีชีวิตจิตใจ ต้องการกัลย าณมิตรและการจะให้คนอื่นรู้ว่า เราคือ กัลย าณมิตรคือต้องแสดงออ ก ไม่ใช่แค่คิดในใจ ลองคิดดูว่ามีคนแสดงให้เรารู้ ว่า

เขารู้สึกดีกับเรา ขอบคุณเรา ชื่นชมเรา เราก็คงยินดีเช่นกัน แต่ถ้าทุกคน คิดดีกับเราหมด แต่ไม่เคยบอ ก ไม่เคยแสดงออ กเราจะไม่รู้แต่แรกเลยด้วยซ้ำ ว่าเรามีคนแบบนี้อยู่รอบตัว

6. คิดบวก

ผู้ทำการศึกษาเรื่องนี้ย้ำว่า การคิดบวกเป็นสุดยอ ดปัจจัยสู่ความสำเร็จของคนร ว ย สร้างเอง ทุกคน ซึ่งปัญหาของคนส่วนใหญ่คือไม่ค่อยสำรวจจิตใจตัวเอง ว่าเป็นคนคิดลบหรือคิดบวก ซึ่งคนร ว ยจะมีความรู้สึกตัวตนอยู่เสมอ ว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองตกลงไปในหลุมของการคิดลบ

7. ยินดีช่วยคนอื่นให้สำเร็จไปด้วย

ซึ่งคนร ว ยสร้างเอง ก็จะรู้จักเลือ กช่วยเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แบบเล่นพร ร คเล่นพวกล้วนๆ ไม่ใช่เห็นแก่ตัวขั้นรุ น แ ร ง แต่เพราะเขารู้ว่า ไม่สามารถช่วยทุกคนทุกเวลาได้ เพราะแบบนั้น ก็จะไม่มีเวลาไปช่วย คนที่มีศักยภ าพมากพอที่จะประสบความสำเร็จ

ผลงานโดยรวมก็จะออ กมากลาง ๆ หรือต่ำ เพราะถ้าช่วยเหมาเข่ง คนเก่งก็จะได้รับเวลา/ทรัพย ากรไม่มากพอ ส่วนคนที่กลางๆ เบๆ ต่อให้ช่วยมากเท่าไร เขาก็ไปได้แค่นั้น

8. ไม่เห่อต ามกระแ สมหาชน

แต่คนร ว ยจะสร้างกระแสของตัวเองขึ้น มา และชักชวนคนรอบข้างให้เดินต าม

9. มีแหล่งรายได้หล า ยทาง

65เปอร์เซน ของคนร ว ย ในกลุ่มที่ทำการศึกษา ไม่ได้มีรายได้จากแหล่งเดียว แต่มีจาก 3 ช่องทางเป็นอย่ างน้อย อย่ างเช่น บ้านหรือคอนโดให้เช่า กำไร และเงินปันผลจากหุ้นและการร่วมหุ้นทำธุรกิจ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสิ่งใหญ่โต ใช้เงิน มากเกินตัว แต่สามารถค่อย ๆ ริเริ่มลองทำและต่อยอ ดขยับขย ายไปเรื่อยๆ

10. เข้าสังคมกับคนแบบเดียวกัน

ซึ่งคนแบบเดียวกัน หมายถึง คนที่มีเป้าหมาย มองโลกด้านบวก มีความกระตือรือร้น จะว่าพวกเขาเลือ กคบก็ได้ แต่เพราะพวกเขารู้ว่าเวลามีจำกัด จะคบทุกคนทุกเวลาไม่ได้ แถมการคบคนที่คิดลบ ช่างนินทาแต่ไม่ลงมือทำก็กลับจะยิ่งบั่นทอนกำลังใจ

และหากเราอย ากจะอยู่ในสังคมคนร ว ยสร้างเองจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องร ว ยก่อนก็ได้ แค่เราต้องมีพื้นฐานทัศนติด้านบวก มีแนวคิดก้าวหน้า และมีความรู้จริง แบบนี้ใครๆ ก็อย ากคุยด้วย อย ากทำธุรกิจด้วย

11. ให้เวลากับตัวเองในการคิดใคร่ครวญ

คนร ว ยสร้างเอง จะใช้ส ม อ ง คิดใคร่ครวญการงานต่างๆ เงียบๆ คนเดียว อย่ างน้อย 15 นาทีทุกวัน ซึ่งเรื่องที่คิดไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเงินทองธุรกิจล้วนๆ แต่เขายังคิด เรื่องการวางแผนชีวิตโดยรวม และการดูแลสุ ข ภ า พ เช่นกัน

12. พุ่งชนเป้าหมาย

คนที่มีเป้าหมาย และมุ่งหน้าเดินสู่เป้าหมายอย่ างไม่ท้อ ล้มแล้วก็ลุก ต่อให้เดินไปได้ ก้าวสองก้าวแล้วล้ม ก็ลุกมาเดินต่อ สุดท้ายจะก็ไปถึงเป้าหมายได้ และคนร ว ยสร้างเอง จะตั้งเป้าหมายส่วนตัวไม่เอาชีวิตของคนอื่น มาลอ กเป็นเป้าหมายของเขา

ที่มา  e-yhangwa