13 สิ่งที่คนจะร่ำร ว ย เขาทำกัน ทำบ่อยๆกล า ยเป็นเ ศ ร ษ ฐีได้

มีคนจำนวนไม่น้อยที่โชคดีเกิดมาพร้อมต้นทุนชีวิตที่ดี มีเงินถุงเงินถัง ได้ชื่อว่าเป็น มหาเ ศ ร ษ ฐีแบบไม่ต้องลงแรง แต่ก็มีคนอีกมากมายที่สามารถเปลี่ยนตัวเองจากคนธรรมดาเป็น มหาเ ศ ร ษ ฐีได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง วันนี้เราจะพาทุกคน มาดูว่านิสัยของคนที่จะร ว ยนั้นเขาทำอะไรบ้าง

1.พุ่งชนเป้าหมาย

คนที่มีเป้าหมาย และมุ่งหน้าเดินสู่เป้าหมายอย่ างไม่ท้อ ล้มแล้วก็ลุก ต่อให้เดินไปได้ก้าวสองก้าวแล้วล้ม ก็ลุกมาเดินต่อ สุดท้ายจะก็ไปถึงเป้าหมายได้ และคนร ว ยสร้างเอง จะตั้งเป้าหมายส่วนตัว ไม่เอาชีวิตของคนอื่น มาลอ กเป็นเป้าหมายของเขา

2.ออ กกำลังกายเป็นประจำ

76เปอร์เซน ของคนร ว ย ออ กกำลังกายอย่ างน้อย 30 นาทีทุกวัน เพราะเขารู้ว่าการออ กกำลังกาย ไม่ได้ดีต่อสุ ข ภ า พ ร่ า ง ก า ย เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ส ม อ ง ตื่นตัวอีกด้วย

3.ตื่นเช้า

คนร ว ยเกือบ 50เปอร์เซน มีเวลาตอนเช้ามืดอย่ างน้อย 3 ชั่ วโมงก่อนเริ่มทำงานจริง เช่น เริ่มงาน 8 โมง ก็ตื่นตี 5 เพราะตื่นเร็วกว่า ก็มีเวลา คิดและทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่า กล า ยเป็นว่าคนตื่นเช้า สามารถ ควบคุม ปัจจัยเวลาได้ ส่วนคนที่ตื่นสาย ทำอะไรช้า ก็จะถูกเวลาไล่กวดอยู่เสมอ

4.อ่ า นหนังสือเป็นประจำ

88เปอร์เซน ของคนร ว ย อ่ า นหนังสืออย่ างน้อย 30 นาที ทุกวัน และเป็นการอ่ า นเพิ่มความรู้ เพื่อเอาไปใช้ต่อยอ ด ไม่ได้อ่ า นหนังสือหมวดบันเทิง

5.เข้าสังคมกับคนแบบเดียวกัน

ซึ่งคนแบบเดียวกัน หมายถึง คนที่มีเป้าหมาย มองโลกด้านบวก มีความกระตือรือร้น จะว่าพวกเขาเลือ กคบก็ได้ แต่เพราะพวกเขารู้ว่าเวลามีจำกัด จะคบทุกคนทุกเวลาไม่ได้ แถมการคบคนที่คิดลบ

ช่างนินทาแต่ไม่ลงมือทำ ก็กลับจะยิ่งบั่นทอนกำลังใจ และหากเราอย ากจะอยู่ในสังคมคนร ว ยสร้างเองจริง ๆ เราไม่จำเป็นต้องร ว ยก่อนก็ได้ แค่เราต้องมีพื้นฐานทัศนติด้านบวก มีแนวคิดก้าวหน้า และมีความรู้จริง แบบนี้ใคร ๆ ก็อย ากคุยด้วย อย ากทำธุรกิจด้วย

6.มีแหล่งรายได้หล า ยทาง

65เปอร์เซน ของคนร ว ย ในกลุ่มที่ทำการศึกษา ไม่ได้มีรายได้จากแหล่งเดียว แต่มีจาก 3 ช่องทางเป็นอย่ างน้อย อย่ างเช่น บ้านหรือคอนโดให้เช่า กำไรและเงินปันผลจากหุ้นและการร่วมหุ้นทำธุรกิจ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสิ่งใหญ่โต ใช้เงิน มากเกินตัว แต่สามารถค่อย ๆ ริเริ่มลองทำและต่อยอ ดขยับขย ายไปเรื่อยๆ

7.ไม่เห่อต ามกระแสมหาชน

แต่คนร ว ยจะสร้างกระแสของตัวเองขึ้น มา และชักชวนคนรอบข้างให้เดินต าม

8.คิดบวก

ผู้ทำการศึกษาเรื่องนี้ย้ำว่า การคิดบวกเป็นสุดยอ ดปัจจัยสู่ความสำเร็จของคนร ว ยสร้างเอง ทุกคน ซึ่งปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ ไม่ค่อยสำรวจจิตใจตัวเอง ว่าเป็นคนคิดลบหรือคิดบวก ซึ่งคนร ว ยจะมีความรู้สึกตัวตนอยู่เสมอ ว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองตกลงไปในหลุมของการคิดลบ

9.แสวงหาที่ปรึกษาของชีวิต

ที่ปรึกษาไม่จำเป็นต้องอายุมากกว่า แต่สามารถเป็นเพื่อนที่มีประสบการณ์ในบางด้าน มากกว่า เคยทำบางอย่ างสำเร็จมาก่อน และที่ปรึกษาไม่ได้ช่วยพัฒนาชีวิตคนร ว ย เฉพาะด้านธุรกิจหรือ การเงินเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชีวิตส่วนตัวมีความสุข ผ่านพ้นปัญหาหล า ยรูปแบบที่ย าก ๆ ได้ คือคนร ว ยจะไม่คิดเองทำเองด้วยตัวคนเดียว แต่ยินดีให้คน มาช่วยคิด ช่วยแนะนำสิ่งดี ๆ อยู่เสมอ

10.ยินดีช่วยคนอื่นให้สำเร็จไปด้วย

ซึ่งคนร ว ยสร้างเอง ก็จะรู้จักเลือ กช่วยเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แบบเล่นพรรคเล่นพวกล้วน ๆ ไม่ใช่เห็นแก่ตัวขั้นรุ น แ ร ง แต่เพราะเขารู้ว่า ไม่สามารถช่วยทุกคนทุกเวลาได้ เพราะแบบนั้น ก็จะไม่มีเวลาไปช่วย

คนที่มีศักยภาพมากพอที่จะประสบความสำเร็จ ผลงานโดยรวมก็จะออ กมากลาง ๆ หรือต่ำ เพราะถ้าช่วยเหมาเข่ง คนเก่งก็จะได้รับเวลา/ทรัพย ากรไม่มากพอ ส่วนคนที่กลาง ๆ เบ ๆ ต่อให้ช่วยมากเท่าไร เขาก็ไปได้แค่นั้น

11.มีมารย าทดี ทำตัวเหมาะสม

คนร ว ยรู้ว่าในโอกาสไหนควรทำอะไร เช่น ส่งจดหมายขอบคุณเมื่อได้รับความช่วยเหลือ กล่าวแสดงความยินดีเมื่อเพื่อนประสบ ความสำเร็จ ร่วมโต๊ะอ า ห า ร อย่ างสำรวม และแต่งตัวเหมาะสม ไม่น้อยเกินและไม่มากเกิน อะไรที่เกินพอ ดี คือ ไม่ดี

ส่วนหนึ่งก็เพื่อรั ก ษ า ความสัมพันธ์ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะเขารู้จักใจเขาใจเรา รู้ว่า We are all humans คือทุกคน มีชีวิตจิตใจ ต้องการกัลย าณมิตร และการจะให้คนอื่นรู้ว่าเราคือ กัลย าณมิตร คือต้องแสดงออ ก ไม่ใช่แค่คิดในใจ

ลองคิดดูว่ามีคนแสดงให้เรารู้ ว่าเขารู้สึกดีกับเรา ขอบคุณเรา ชื่นชมเรา เราก็คงยินดีเช่นกัน แต่ถ้าทุกคนคิดดีกับเราหมด แต่ไม่เคยบอ ก ไม่เคยแสดงออ ก เราจะไม่รู้แต่แรกเลยด้วยซ้ำ ว่าเรามีคนแบบนี้อยู่รอบตัว

12.ให้เวลากับตัวเองในการคิดใคร่ครวญ

คนร ว ยสร้างเอง จะใช้ส ม อ ง คิดใคร่ครวญการงานต่าง ๆ เงียบ ๆ คนเดียว อย่ างน้อย 15 นาทีทุกวัน ซึ่งเรื่องที่คิดไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเงินทองธุรกิจล้วน ๆ แต่เขายังคิดเรื่องการวางแผนชีวิตโดยรวม และการดูแลสุ ข ภ า พ เช่นกัน

13.ชอบฟังเ สี ยงสะท้อนจากผู้คน

แม้แต่คนที่ร ว ยแล้ว ก็ไม่ได้คิดถูก ทำถูกทุกเรื่องทุกครั้ง และเขารู้ว่าถ้าไม่เปิดใจรับฟังความเห็น ก็ไม่มีทางรู้ตัว ได้อย่ างทันท่วงที ว่าอะไรกำลังผิ ดทาง อะไรที่คนไม่ชอบ เขาจึงแสวงหาความเห็นจากคนรอบข้าง

ทั้งเพื่อน คู่ค้ า และลูกค้ า แล้วถ้าฟังแล้วมีเหตุผลจริงก็ยอมรับ พร้อมกับเอามาปรับปรุงให้การงานต่าง ๆ กลับเข้าเส้นทางที่ถูกต้อง ส่วนคนที่กลัวความเห็นจากคนอื่น ก็เ สี่ ย ง มากที่จะล้มทั้งยืน เพราะไม่รู้ตัว/รู้ช้า ว่ากำลังเดินลงเหว

และส่วนใหญ่ก็จะเดินลงเหว คนร ว ยก็สามารถหลงเดินไปเส้นทางที่พาไปลงเหวได้เช่นกัน แต่เค้ารับฟังเ สี ยงเตือน ว่านั่นน่ะผิ ดทาง อย่ างที่บอ กไว้แต่แรก ว่าคนร ว ยสร้างเอง ก็เกิดมาเป็นคนธรรมดา แต่ด้วยทัศนคติที่ใช่ และการกระทำที่ใช่

ผ่านการต่อสู้ฝ่ า ฟั น และปรับตัว คนธรรมดาก็ร ว ยได้ สำเร็จได้ด้วยตัวเอง และถ้าเราเชื่อว่า ทัศนคติที่ใช่นั้น สร้างได้ ไม่ต้องลุ้นให้มีติดตัวมาแต่เกิดแบบพรสวรรค์ เราก็สามารถสร้างทัศนคติที่ใช่ของเราเองได้เช่นกัน

ที่มา  jingjai999