วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้พฤติก รร ม ที่พ่อแม่ชอบทำเพื่อลูก ทำให้ลูกไม่รู้จักโตสักที กับบทความ 15 พฤติก รร ม ที่พ่อแม่ทำให้ลูกไม่เติบโต ไปดูกันว่ามีพฤติก รร ม ที่พ่อแม่ควรเลิกทำ
1 ทำร้า ยเขาด้วยการต ามใจเขามากเกินไป
ผลก็คือพ่อแม่กล า ยเป็นข้าช่วงใช้ของลูก ส่วนลูกกล า ยเป็น ‘ลูกบังเกิดเกล้า’ ที่พ่อแม่ต้องยอมให้เขาทุกอย่ าง ที่หนักกว่านั้นก็คือ ถ้าพ่อแม่ไม่ยอมต ามที่ลูกต้องการ ลูกบางคนก็ถึงขั้นทำร้า ย ข้าวของ ทำร้า ยพ่อแม่
2 ไม่กล้าห้ามปรามสั่งสอนเมื่อลูกทำผิด ทำไม่ดี ทำบ า ป
ผลก็คือ ลูกสูญเสียสามัญสำนึก แยกแยะถูกผิดดีชั่ วไม่เป็น มองไม่เห็นเส้นแบ่งทางจริยธรรมว่า ดีเป็นอย่ างไร ชั่ วเป็นอย่ างไร จึงกล า ยเป็นนักเลงอัน ธพา ล ระรานคนเขาไปทั่ว
3 การให้เงินลูกเพียงอย่ างเดียว
ผลก็คือ ลูกไม่รู้จักคุณค่าของเงิน ไม่เห็นคุณค่าของผู้ที่หา/และให้เงิน ยิ่งได้เงิน มาก ยิ่งผลาญเงินเก่ง มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้และทั้งๆที่ใช้จ่ายเงินสูง แต่กลับมีคุณภาพชีวิตต่ำ
4 ทำร้ ายลูกด้วยการไม่ยอมให้ลูกเรียนรู้ที่จะพึ่งตนเอง
เกรงว่า หากให้ลูกทำอะไรด้วยตนเองแล้วเขาจะลำบาก ผลก็คือ เมื่อโตขึ้นลูกกล า ยเป็นลูกแหง่ที่พึ่งตนเองไม่ได้ ทำอะไรด้วยตนเองไม่เป็น ยิ่งเติบโตยิ่งเป็นตัวปัญหาของสถาบันครอบครัว
5 ทำร้า ยลูกด้วยการไม่ยอมส่ งเสริมให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี
มัวแต่สนใจลงทุนในการทำธุรกิจเป็นร้อยเป็นพันล้าน แต่ไม่รู้จักลงทุนในการสร้างลูกให้เป็นปัญญาชน ผลก็คือ ลูกเติบโตแต่ตัว แต่ทว่ามีสติปัญญาที่ต่ำต้อย ข า ดทักษะการคิด การใช้เหตุผล การทำงาน การเข้าสังคมเขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถร่วมเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมเท่านั้น แต่ยังสร้างปัญหาให้สังคมอีกต่างหาก
6 การทำแต่งานสังคมสงเคราะห์นอ กบ้าน
โดยลืมไปว่า คนที่ตนต้องสงเคราะห์ก่อน ดูแลก่อนต้องให้ความรักก่อนก็คือ ‘ลูก’ ผลก็คือแม้จะกล า ยเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่ประสบความสำเร็จนอ กบ้าน สังคมสรรเสริญ แต่กลับเป็นพ่อแม่ที่ ล้มเ ห ล วในบ้าน และลูกกล า ยเป็นเด็กที่ข า ดความรัก ความอบอุ่น ไม่พร้อมจะแบ่งปันความรักและความอบอุ่นให้ใคร
7 การไม่รู้จักยกย่องชมเชยลูก เมื่อเขาประสบความสำเร็จในการเรียน
ในการทำงาน หรือในการทำกิจก รร ม ใดๆก็ต าม ผลก็คือ ลูกกล า ยเป็นคนใจคอคับแคบ ยกย่องชมเชยใครไม่เป็น เมื่อเห็นคนอื่นได้ดีมีความสำเร็จ เขาจึงเป็นนักอิ จฉ าริ ษย าตัวฉกาจ ที่จ้องแต่ จะหาทางทำล า ยคุณงามความดีของคนอื่น
8 การไม่รู้จักสอนเขาให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ
ผลก็คือ เมื่อโตขึ้น เขาจึงพร้อมผละหนีพ่อแม่ไปอย่ างไม่รู้สึกผิด ไม่เห็นความจำเป็นว่า การเป็นลูกที่ดีนั้นจะต้องกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ของตนอย่ างไร
9 การไม่สอนลูกให้รู้จักการบำเพ็ญตนเป็นผู้ให้
ผลก็คือเมื่อโตขึ้นเขาจึงกล า ยเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่ างร้า ยกาจ คิดแต่จะกอบโกย คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัว จน มองไม่เห็นหัวคนอื่น แทนที่จะถือหลัก ‘ยิ่งร ว ยยิ่งให้ ยิ่งได้ยิ่งแบ่ง’ กลับถือหลัก ‘ยิ่งร ว ยยิ่งคอร์รัปชั่น ยิ่งแบ่ งปั นยิ่งสูญเสียเปล่า’
10 ทำร้ า ยลูกด้วยการไม่ยอมให้ลูกรู้จักตัดสินใจด้วยตนเอง
ผลก็คือ ลูกกล า ยเป็นคนข า ดความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่กล้าคิด ไม่กล้าพูด ไม่กล้าทำอะไร ส่ งผลให้ไร้ภาวะผู้นำ ต้องเดินต ามคนอื่นโดยดุษฎี
11 การไม่สอนให้ลูกรู้จักสมบัติของผู้ดี
ผลก็คือเขากล า ยเป็นคนหย า บกระด้างทั้งทางกาย ทางใจ ข า ดความสุภาพอ่อนน้อม ข า ดสัมมาคาราวะ ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้จักประมาณตน ครองตน ครองงานไม่เป็น ไม่เห็นคุณค่า ของระเบียบประเพณี ก ฎห ม า ย จรรย าจารีตของสังคม ไม่เคารพในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนดีของเพื่อน มนุษย์
12 การไม่แนะนำให้ลูกรู้จักคบเพื่อนที่เป็นกัลย าณมิตร ( เพื่อนแท้ )
ผลก็คือรอบกายของเขาจึงมีแต่บ า ปมิตร ( เพื่อนเทียม ) คอยประจบส อพ ล อ คอยหลอ กล่อ ให้ทำแต่สิ่งไม่ดี นำพาชีวิตไปในทางเสียหา ย ตกอยู่ใต้วังวนของอบ า ยมุ ข สนุกสนาน ไม่สนใจ หาแก่นสา รให้กับชีวิต
13 ทำร้ า ยลูกด้วยการรักเขามากเกินไป
ผลก็คือ เกิดภาวะรักจนหลง ลูกของตนถูกทุกอย่ าง ลูกของตนดีกว่าคนอื่นเสมอ อันส่ งผลให้ลูกกล า ยเป็นคน มีอัตต าสูง เชื่อมั่นตนเองในทางที่ผิด ชอบดูถูกคน เป็นตัวปัญหาแต่ไม่ยอมรับ ว่าตนเป็นคนสร้างปัญหา
14 การไม่รู้จักสร้างสภาพแวดล้อมให้ลูกเป็นคนรักการอ่าน รักการเขียน รักการเรียนรู้ รักการเดินทาง
ปล่อยให้เขาศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองไปต ามยถาก รร ม ผลก็คือ เขากล า ยเป็นคนหูต าคับแคบ ข า ดความรู้พื้นฐาน ข า ดความรู้รอบตัว ข า ดความกระตือรือร้น ไม่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ การคิด พูด ทำ ไม่เฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง ข า ดความแหลมคม ต ามไม่ทันโลก ตกข่าว เป็นคนว่างเปล่าทางความรู้ ( รอบตัว ) ความคิด จิตใจ และไม่มีรสนิยมอย่ างอารยชน
ที่มา จากท่าน ว.วชิรเมธี/ g a n g b e a u t y. c o m, f a h h s a i