อย ากมีการงานที่มั่นคง หรือหากใครรับงานทำเอง ถ้าอย ากมีงานตลอ ดจะต้องทำอ ย่ างไร การที่เรามีงานหรือมีคน มาจ้างเราทำงานตลอ ด จะช่วยให้ชีวิตเรามั่นคงมากขึ้น มีรายได้เข้ามาเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงตัวเองได้อยู่ตลอ ด แต่อะไรละ ที่จะเป็นตัวช่วยทำให้เรามีงานเข้ามาให้มีรายได้ตลอ ดได้ ลองไปดูบทความต่อไปนี้กัน
เงินอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีคุณภาพชีวิตที่ดีย่อมขึ้นอยู่กับปริมาณเงินในกระเป๋าเป็นสำคัญ หนึ่งในปัญหาใหญ่ของอาชีพฟรีแลนซ์ที่ทำให้หล า ยๆ คนป ว ดหัวก็คือ การจัดการกระแสเงินสด ที่เข้ามาในแต่ละเดือนเพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้
บางเดือนคุณอาจทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ในขณะที่บางเดือนแค่เงินซื้อข้าวยังแทบจะไม่มี เหตุการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ฟรีแลนซ์มักจะพบเจออยู่เสมอๆ ด้วยธรรมชาติของงานฟรีแลนซ์ที่รายได้ไม่แน่นอน ขึ้นกับว่าในเดือนนั้นๆ มีงานเข้ามามากน้อยแค่ไหน
การที่จะทำให้มีงานเข้ามาอ ย่ างต่อเนื่องนั้น สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องย าก แต่หากคุณมีนิสัย 3 อ ย่ างที่เรากำลังจะแนะนำคุณนี้ จะช่วยให้คุณมีงานเข้ามาตลอ ด ซึ่งจะนำมาสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
1. ให้ความสำคัญกับคำมั่นสัญญา และการส่งมอบงานที่ตรงต่อเวลา
ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรก็ต าม หากคุณให้คำมั่นแก่ผู้ว่าจ้างไปว่าคุณสามารถทำอะไรได้ คุณก็ต้องทำให้ได้ต ามที่คุณพูดเช่นกัน และภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด ยิ่งคุณทำได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงความเป็น มืออาชีพของคุณมากขึ้นเท่านั้น นอ กจากนี้ การทำงานที่เกินกว่าความคาดหวังของผู้ว่าจ้าง ย่อมทำให้ผู้ว่าจ้างเกิดความประทับใจ และวางใจที่จะร่วมงานกับเราในโอกาสต่อๆ ไปอีกด้วย
2. ติดต ามผลการนำเสนองานเป็นระยะๆ
หลังจากที่คุณได้นำเสนอผลงานของคุณให้กับผู้ว่าจ้างแล้ว ถ้าคิดว่าจบกระบวนการแล้ว ขอให้เปลี่ยนความคิดอ ย่ างแ ร ง ขั้นตอนต่อไปที่คุณควรทำ และต้องทำด้วย คือ การติดต ามผลหลังจากที่คุณได้เสนอตัวรับงาน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณและผู้ว่าจ้างจะได้ร่วมงานกันสำหรับจำนวนครั้งของการติดต ามที่เหมาะสมนั้น
ไม่มีจำนวนครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าคุณอย ากรับงานจากผู้ว่าจ้างคนไหน มากกว่า หากเป็นโปรเจคเล็กๆ ที่ไม่ได้น่าสนใจสำหรับคุณ คุณอาจต ามแค่ครั้งหรือสองครั้งก็พอ แต่ถ้างานนั้นเป็นงานที่คุณอย ากทำมากๆ คุณอาจติดต ามผลบ่อยๆ จนกว่าเขาจะบอ กปฏิเสธคุณ
ซึ่งการติดต ามผลการเสนองานนี้หล า ยคน มักจะติดกรอบว่าจะเป็นการสร้างความรำคาญให้กับผู้ว่าจ้าง ซึ่งมีความเป็นไปได้ แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน การที่คุณติดต ามผลบ่อยๆ นั้นคือ การแสดงว่าคุณมีความกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกับผู้ว่าจ้างคนนั้น และแน่นอน ถ้าผู้ว่าจ้างรำคาญคุณ เขาจะแสดงให้คุณรู้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอ ย่ างแน่นอน
3. อ ย่ าหยุดที่จะนำเสนองาน จนกว่าจะมีงานล้น มือ
หากจะว่าไป การทำงานฟรีแลนซ์ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำธุรกิจส่วนตัว ถ้ารายได้ของธุรกิจมาจากการขายสินค้า รายได้จากการทำงานฟรีแลนซ์ก็มาจากการขายผลงานของคุณนั่นเอง อ ย่ าลืมว่าทุกโปรเจคที่คุณกำลังทำอยู่นั้นต้องถึงวันสิ้นสุดไม่วันใดก็วันหนึ่ง
และถ้าคุณไม่ได้มีลูกค้าที่จ้างงานคุณประจำ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือพย าย ามหาผู้ว่าจ้างรายใหม่ๆ และรับงานนอ กเหนือจากที่คุณกำลังทำอยู่นั่นเองอาจจะฟังดูขัดกับความรู้สึกสักเล็กน้อยกับการที่ต้องรับงานทำเพิ่มในขณะที่คุณกำลังยุ่งอยู่
แต่เชื่อเถอะว่าหลังจากที่ทุกอ ย่ างได้เสร็จสิ้น คุณจะหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของเดือนนั้นไปโดยปริย าย ซึ่งการนำเสนองานนี้เป็นศิลปะอ ย่ างหนึ่ง คุณไม่มีทางรู้เลยว่าต้องนำเสนองาน มากเท่าไหร่ถึงจะพอ จนกระทั่งคุณทำมันเป็นประจำ การนำเสนองานอ ย่ างต่อเนื่องจนเป็นนิสัยนั้นจะทำให้คุณนำเสนองานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าค่าเฉลี่ยในการที่จะได้งานก็จะมากต ามไปด้วยนั่นเอง
ที่มา forlifeth