5 มุมมองที่ดี ของคนทำงาน ที่กำลังเหนื่อยกับงาน มีแ ร งสู้

ทัศนคติ และ มุมมอง เป็นเรื่องสำคัญที่กำหนดชีวิตของเราอยู่ไม่น้อย เพราะสองสิ่งนี้เปลี่ยนวิ ธีการที่เราจะมองโลกรอบข้างตลอ ดไปจนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ด้วยเหตุนี้บรรดาเรื่องราวเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองมักจะหยิบสองสิ่งนี้มาพูดเป็นแก่นสำคัญมากกว่าเรื่องไหนๆ

และต่อให้บางคนอาจจะมองว่าเรื่องทัศนคตินี้ส่วน มากจะเกี่ยวกับเรื่องการทำงานหรือสร้างธุรกิจ แต่เอาจริงๆ แล้วทัศนคตินั้นสัมพันธ์และประยุกต์ใช้กับการใช้ชีวิตของเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน แต่วันนี้เราจะขอนำทัศนคติในเรื่องของการทำงาน มาเป็นตัวอ ย่ างให้กับคนที่กำลังท้อ ในการทำงาน

1. ถึงจะไม่เก่งงานนี้

แต่เราก็พย าย ามเต็มที่แล้ว บ่อยครั้งที่เราได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด ก็คิดเ สี ยว่าไม่เป็นไร ทำให้เต็มที่ แต่ก่อนทำก็บอ กคนที่มอบหมายหน่อยว่าไม่ค่อยถนัดนะ แต่จะทำเต็มที่ ผิ ดพลาดอะไรก็บอ กได้ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก แต่ถ้าทำออ กมาแล้วดีก็ถือเป็นกำไร อย่ าเ สี ยใจที่ทำงานบางประเภทไม่เก่ง เพราะเราก็อาจจะเก่งในงานประเภทอื่นก็ได้

จำไว้ว่าปลาอาจจะว่ายน้ำเก่งกว่าลูกสุนัข แต่ปลาก็วิ่งไม่ได้เหมือนกัน ถ้าปลาตัวหนึ่งจะโดดขึ้น มาบนบกแล้วคืบคลานจนถลอ กปอ กเปิกก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะมันเป็นปลาจริงไหม

2. ให้เกียรติงานที่ทำด้วยการทุ่มเททำงานอย่ างเต็มที่

อย่ าบ่นว่าไม่ชอบงาน นึกถึงกระเป๋ารถเมล์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสสิ แล้วเปรียบเทียบกับเราที่นั่งบ่นอยู่นั่นแล้วว่าเหนื่อย ไม่สนุก ถามว่างานหรือเปล่าที่ทำให้เราทุ ก ข์ จริง ๆ แล้วเราต่างหากที่ทำให้ตัวเองเป็นทุ ก ข์

เพราะนั่งพร่ำบ่นกับสิ่งที่ไม่ได้ดังใจ ถ้าใครได้ทำงานที่ชอบก็ดีไป แต่อย่ าลืมว่างานที่ชอบก็มี ด้านที่ทำให้เราเหนื่อยได้เหมือนกัน ใช่ว่าหนทางการทำงานจะปูด้วยกลียกุหลาบเสมอไป

สิ่งที่เราควรคิดก็คืองานคือสิ่งที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่ างคุ้มค่า อย่ าดูถูกงานของตัวเอง ไม่เช่นนั้นเราก็ดูถูกตัวเองด้วยที่เลือ กทำงานนั้น อย่ าลืมว่าเราต่างหากที่เป็นคนเลือ กที่จะทำหรือไม่ทำ ดังนั้นทำงานที่เราเลือ กในเวลานั้นๆ

3. ไม่เป็นไร ผิ ดพลาดกันได้

ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทำงานผิ ดพลาดแล้วยังจะมานั่งโ ท ษตัวเองให้เหนื่อยทำไม ให้กำลังใจตัวเองเพื่อทำงานชิ้นต่อไปดีกว่า ยิ่งเรามัวจมกับความผิ ดพลาดเดิม ๆ เราก็จะทำงานอื่นต่อไม่ไ

ด้ สู้เอาความผิ ดพลาดมาทำให้ถูกต้องในงานชิ้นใหม่ดีกว่า สัจธรรมของชีวิตที่ต้องจำไว้อย่ างหนึ่งก็คือ ไม่มีใครจำเรื่องของคนอื่นนานหรอ ก ถึงใครจะว่าเรามากมายแค่ไหน แต่พอเดินพ้นหน้าเราไปเขาก็ต้องคิดเรื่องอื่นแทน แล้วเราจะมาลงโ ท ษตัวเองอยู่ทำไม

4. ใครจะว่าอะไรก็ช่าง

ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่ างนั้นก็พอแล้ว เคยได้ยินคนพูดเรื่องการติดฉลากไหม การติดฉลากก็คือ การประทับตราว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร เพื่อให้ง่ายต่อ การจัดประเภท ทีนี้ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าติดฉลากถูกก็ดีไป

แต่ถ้าเมื่อไหร่ติดฉลากผิ ด สิ่งนั้นก็จะไม่ใช่สิ่งที่เป็นต ามฉลากก็เท่านั้น ในหลักการเดียวกัน ถ้าใครมาว่าคุณส า ร พัดเรื่อง แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่ างเขาบอ ก ก็ไม่เห็นจะต้องคิดมากกับฉลากที่เขาเอามาติดไว้ ถ้าคุณเป็นน้ำต าลแล้วเขาเอาฉลากน้ำปลามาติดให้ก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณ เขาเองต่างหากที่คิดผิ ด

5. งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย

เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว เวลางานล้น มือเราอาจท้อ แต่ท้อไปงานก็ไม่เสร็จ ลุกมาทุ่มเททำให้เสร็จ ๆ ไปดีกว่า เหนื่อยแค่ไหนเดี๋ยวก็ได้พัก และสิ่งที่เราต้องทำเมื่องานเยอะ คือจัดระเบียบเส้นต า ย ของงานแต่ละชิ้น เจรจาต่อรองถ้าคิดว่าจะไม่เสร็จตรงเวลา แล้วก็ค่อย ๆ ทำไปทีละงาน เดี๋ยวดีเอง

ที่มา  jingjai999  thairath