5 สิ่งที่พ่อแม่ชอบทำเพื่อลูก ทำให้ลูกเป็นคนขี้เกียจโดยไม่รู้ตัว

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้สิ่งที่พ่อแม่ยุคใหม่ชอบทำ แล้วทำร้ า ยลูกรักของเราโดยไม่รู้ตัว กับบทความ 5 สิ่งที่พ่อแม่ชอบทำเพื่อลูก ทำให้ลูกเป็นคนขี้เกียจโดยไม่รู้ตัว ไปดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรปรับเปลี่ยนเพื่อ การเติบโตเป็นคนที่เก่งของลูก

‘ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูก’ เราคงจะคุ้นเคยกับประโยคนี้กันดีใช่ไหมล่ะคะ และครูพิมเองก็คิดว่า คำกล่าวนี้ไม่ได้ผิดแต่อย่ างใด เพียงแต่อาจจะยังไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด แม้ว่าพ่อแม่จะมีความรักให้กับลูก แต่หากความรักนั้นถูกถ่ายทอ ดไปด้วยความไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด ๆ ก็อาจกลับกล า ยเป็นการทำล า ยลูกได้โดยไม่รู้ตัว ประเด็นสำคัญก็คือ รูปแบบการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องบางอย่ างนั้น ไม่เพียงแต่ส่ งผลกระทบต่อตัวพ่อแม่เองเท่านั้น ( เช่น ต้องเหนื่อยเกินความจำเป็น หรือทำให้ไม่สามารถปกครองลูกได้ ) แต่ พฤติก ร ร มหล า ย ๆ อย่ างยังส่ งผลกระทบโดยตรงต่อ การเจริญเติบโต และการใช้ชีวิตของเด็กในอนาคตอีกด้วย ในบทความนี้ ครูพิมจะขออนุญาตกล่าวถึงความผิดพลาด ที่มักจะเกินขึ้นโดยไม่รู้ตัว 5 ประการด้วยกันค่ะ

1 ไม่ฟังลูก

หล า ย ๆ ครั้ง ความเป็นพ่อแม่ ทำให้เรารู้สึกมีอำนาจและเหนือ กว่าลูก จนลืมไปว่าลูกหรือเด็ก ๆ เองก็มีความต้องการหรือมีความคิดบางอย่ างเป็นของตนเองเช่นกัน การรับฟังลูก จะเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เราได้เข้าใจและช่วยเหลือลูกได้อย่ างตรงจุด โดยเฉพาะเมื่อลูกเกิดปัญหาขึ้นในชีวิต แต่การที่พ่อแม่คิดว่าตนเองรู้ทุกอย่ างเกี่ยวกับลูกโดยไม่จำเป็น ต้องฟังลูกนั้น อาจทำให้พลาดสิ่งที่สำคัญ หรือไม่สามารถช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้ลูกได้อย่ างทันเวลา และยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกหันไปพึ่งพาบุคคลอื่น มากกว่าก็เป็นได้ค่ะ

2 ทำแทนลูกมากจนเกินไป

ความรักของพ่อแม่ หล า ย ๆ ครั้งก็มักถ่ายทอ ดออ กไปด้วยการปกป้อง ดูแล ซึ่งก็ไม่ผิดนักหากว่า การดูแลของเรานั้น ไม่ได้มากเกินไปจนถึงขั้นทำให้ลูกไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ และไม่เพียงแต่การ ‘ลงมือทำ’ สิ่งต่าง ๆ แทนลูกเท่านั้น เพราะเมื่อเราทำจนเคยชิน หล า ย ๆ ครั้งจึงก้าวไปถึงขั้น ‘คิดและตัดสินใจ’ แทนลูกอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ แม้เด็กอาจจะรู้สึก ถึงความสะดวกสบายและปลอ ดภั ยในช่วงแรก ๆ ของชีวิต แต่เมื่อเติบโตขึ้น พฤติก ร ร มเหล่านี้ของพ่อแม่อาจจะส่ งผลให้เด็กรู้สึกถึงความด้อยคุณค่า รู้สึกว่าตนไม่มีความสามารถ ไม่กล้าแสดงออ ก และไม่เป็นตัวของตัวเองค่ะ

3 เปรียบเทียบลูกตนเองกับลูกคนอื่น

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งที่พ่อแม่มักจะทำก็คือ การเปรียบเทียบลูกตนเองกับลูกคนอื่น หรือแม้แต่เปรียบเทียบระหว่างลูกแต่ละคน โดยหวังว่าจะให้ลูกที่ด้อยกว่านั้นปรับปรุงตัวขึ้น ซึ่งความเชื่อนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ผลต ามที่พ่อแม่ต้องการเท่านั้น แต่ยังส่ งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูก และระหว่างลูก ๆ แต่ละคนได้อีกด้วย

4 ไม่มีความคงเส้นคงวา

พ่อแม่หล า ย ๆ คน มักมีการตั้งกฎ กติกา หรือข้อจำกัดบางอย่ างไว้ให้กับลูก แต่กฎระเบียบที่ตั้งขึ้นนั้น กลับมีความไม่คงเส้นคงวา มีการนำมาใช้ในบางกรณี แต่กลับไม่ใช้ในบางกรณี โดยไม่มีเหตุผลที่ดีหรือเหมาะสมให้กับลูก หรือบางครั้งก็เป็นกฎที่ตั้งขึ้นโดยที่พ่อแม่ไม่สามารถทำให้เห็นหรือทำเป็นตัวอย่ างได้ ซึ่งทำให้กฎหรือ กติกาที่ตั้งขึ้นนั้น ไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ได้ผล

5 ไม่สื่อส า รกับลูกอย่ างตรงไปตรงมา

รูปแบบการสื่อส า รอย่ างหนึ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและทำล า ยความสัมพันธ์ได้ ก็คือ การสื่อส า รที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะในทางบวกหรือทางลบ เช่น พ่อแม่มักจะไม่ชมลูกตรง ๆ เพราะกลัวลูกจะเหลิง แต่กลับใช้คำที่ก่อให้เกิดความรู้สึกทางลบแทน เช่น ‘ทำให้ได้แบบนี้ไปตลอ ดก็แล้วกัน’ หรือ ‘ทำเรื่องดี ๆ กับเขาได้ด้วยหรือ’ ซึ่งภาษาที่ใช้ในการสื่อส า ร

ในลักษณะนี้ ไม่ได้ส่ งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับลูกแต่อย่ างใด และการสื่อส า รในทางบวกก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เด็กเหลิง หากว่าคำชมหรือคำพูดในทางบวกนั้น มีความสอ ดคล้องกับพฤติก ร ร มหรือผลงานที่เด็กได้ทำจริง ซ้ำยังจะเป็นการเสริมแรงให้เด็กทำพฤติก ร ร มที่ดีนั้นต่อไปอีกด้วยค่ะ ความรักของพ่อแม่จะถูกถ่ายทอ ดไปยังลูกได้

มากน้อยแค่ไหน อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณความรัก ( ซึ่งครูพิมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคน มีอย่ างล้นเหลือ ) แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ วิธีการถ่ายทอ ดความรักนั้นไปยังลูกอย่ างถูกต้อง เหมาะสม และสอ ดคล้องกับความเข้าใจของเด็กนั่นเองค่ะ

ที่มา t r u e p l o o k p a n y a, f a h h s a i