7 แนวทางเอาตัวรอ ด ในยุคที่ร า ยได้เติบโตไม่ทันค่าครองชีพ

ในยุคปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่า เงิน เป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตไปแล้ว คงไม่มีใครอยู่ได้ถ้าปราศจาก เงิน เพราะทุกอ ย่ าง ต้องใช้ เงิน ทั้งนั้นเลยนะคะ ตั้งแต่ตื่นนอน เปิดไฟ อาบน้ำ แปรงฟัน ทุกอ ย่ างก็เป็น เงิน ทั้งนั้นเลยค่ะ

ยุคสมัยนี้ข้าวของก็แพง ร า ยได้ก็น้อย แถมยังต้องมาเจอ กับเ ศ ร ษ ฐ กิ จถดถอยอีก เรียกได้ว่าร า ยได้เติบโตไม่ทันค่าครองชีพกันเลยทีเดียว หากอย า กเอาตัวรอ ดให้ได้ในยุคเ ศ ร ษ ฐ กิ จแบบนี้ ต้องรู้จักเ ค ล็ ด ลั บเหล่านี้

1. หาร า ยได้เสริม

จากข้ อข้างบนที่กล่าวมา หากใครไม่สะดวกปลูกผักหาร า ยได้เสริม ก็ต้องใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ ลองคิดว่าจะทำอ ย่ างไรเพื่อให้มีร า ยรับเพิ่มเข้ามา อาจทำขน มข า ย ทำอ า ห า ร ต ามสั่งแบบมีบริการส่งถึงที่ และ ในปัจจุบันก็มีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้เราหาร า ยได้เสริมอยู่มากมาย อ ย่ างเช่น ขับแกร๊บฟู๊ด ขับอูเบอร์ เป็นต้น

2. สร้างนิสัยรักการเก็บออม

เ ค ล็ ด ลั บการออมนั้นง่ายๆ คือ ถ้ามีร า ยได้เข้ามาให้ออมก่อนเลย แล้วค่อยเอาเงินที่เหลือมาใช้จ่าย สมมุติออม 20 เปอร์เซน ของเงินเดือน แล้วพอปล า ยๆเดือน มาเงินไม่พอใช้ หากไม่ถึงที่สุดจริงๆอ ย่ าเอาเงินที่ออมไว้ออ กมาใช้

แล้วให้พย า ย า มไปหางานเสริมทำ หาร า ยได้เสริมเพิ่ม จะได้มีแรงกดดันตัวเองในการออ กไปทำงานให้มากขึ้น แรกๆมันก็อาจจะย า กนิดหน่อยตรงที่เราต้องมีสติควบคุมจิตใจของตนเอง แต่พอทำไปสักพักเราก็จะเริ่มติดเป็นนิสัยแล้ว เราจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องย า กอีกต่อไป

3. ทำบัญชีร า ยรับร า ยจ่ายประจำวัน

อ ย่ าคิดว่าการทำบัญชีนั้นไม่สำคัญ ที่จริงแล้วไม่ควรมองข้ามเลย เพราะ บัญชีทำให้เรารู้ว่า เรามีร า ยรับอะไรเท่าไหร่บ้ า ง มีร า ยจ่ายหมดไปกับสินค้าบริการประเภทไหนบ้ า ง

และ เรามีภาระที่ต้องชำระค่าอะไรบ้ า ง เราจะได้เห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน และ ตัวเลขเหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องเตือนสติไม่ให้เราใช้จ่ายเงินจนเกินตัว โดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เมื่อเราเห็นภาพรวมของการเงินของเราแล้ว ก็จะทำให้เรามีวินัยทางการเงินที่ดีขึ้น

4. รู้จักประยุกต์ใช้ของเก่า

รู้จักประยุกต์ใช้ของเก่า หรือ นำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ ลองสำรวจดูในบ้ า นบ้ า งครับว่าสิ่งของชิ้นไหนที่ยังพอใช้ได้ แต่สภาพเก่าไปบ้ า งก็ไม่เป็นไร หากสามารถนำมาซ่อมแซม หรือ ดัดแปลง กลับมาใช้งานได้ จะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าได้ ไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้ อ แถมยังได้ฝึกคิดไอเดียใหม่ๆไปในตัว

5. หัน มาผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนให้มากขึ้น

หากที่บ้ า นไหน มีพื้นที่ว่างข้างบ้ า น อาจจะลองปลูกผักสวนครัวเล็กๆ ดั่งคำพูดที่ว่า กินทุกอ ย่ างที่ปลูก และ ปลูกทุกอ ย่ างที่กิน จะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องซื้ อ ผักจากตลาด ถ้าใครที่อยู่ ห้องเช่า

ตึกแถว คอนโดต่างๆ ให้ลองหาอะไรมาดัดแปลงเป็นกระบะหรือ กระถาง ใส่ดิน ปลูกผักห้อยวางต ามระเบียง นอ กจากจะได้ผักกินเองแล้ว ยังเป็นผักที่ปลูกเองปลอ ด ส า ร พิ ษ อีกด้วย เผลอๆอาจต่อยอ ดเอาไปข า ยในที่ทำงานเป็นผักออแกนิคสำหรับคนรักสุ ข ภ า พ ก็จะได้เป็นช่องทางในการสร้างร า ยได้เสิรมอีกทาง

6. คิดก่อนจะใช้จ่ายอะไร

ก่อนที่จะควักเงินออ กจากกระเป๋าแต่ละที ควรคิดให้ดีดีก่อนครับว่า สิ่งที่เรากำลังจะแลกมานั้น มัน มีความจำเป็น มากน้อยเพียงใด ถ้าสิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องปากท้อง อ ย่ าง ข้าวส า ร อ า ห า ร แห้ง ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม ของแบบนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพ ส่วนสิ่งของที่เป็นพวกเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า สินค้าไอทีต่างๆ พวกนี้อาจจะต้องคิดสักหน่อยก่อนซื้ อ เพราะบางอ ย่ างก็อาจจะไม่จำเป็น

7. ติดต ามส่วนลด หรือ โปรโมชั่น

เดี๋ยวนี้มีการทำการตลาดทางออนไลน์มากขึ้น พ่อค้ าต่างก็อย า กข า ยของ อย า กให้ลูกค้ารู้จักร้าน อย า กให้ร้านตัวเองมีเครดิตดีๆ จึงต้องลดร า ค าแข่งกันเพื่อ ดึงดูดลูกค้า หากจำเป็นต้องซื้ อ ของลองเสริชดูร า ค าของแต่ละร้านให้ดีก่อน บางทีเราอาจได้โปรโมชั่นดีๆที่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเราไปได้เยอะเลยทีเดียว

ที่มา  jingjai999