เรียกได้ว่าเป็นความล้มเหลวทางการเ งิ นโดยสิ้นเชิง วันนี้เรามีวิ ธีเก็บเ งิ นให้ได้ผลสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นอย ากจะมีเ งิ นเก็บสักครั้งในปีนี้มาบอ ก จะเป็นอ ย่ างไรเราไปดูกันเลย
การมีเ งิ นเก็บคือเป้าหมายประจำปีของทุกคน ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีวิ ธีการเก็บเ งิ นที่แตกต่างกันออ กไป แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะพ่ายแพ้ในเวลาอันสั้น แล้วกล า ยเป็นว่าสิ้นปีเ งิ นเก็บเหลือเท่าเดิม หรือไม่ก็เพิ่มขึ้นจากเดิมแค่หลักร้อยหลักพัน
ยังไม่ต้องไปถึงเก็บยังไงให้ได้เ งิ นแสน เ งิ นล้านก่อนสิ้นปี วิ ธีนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ถ้าคุณไม่บังเอิญถูกห ว ย เอาแค่มีเ งิ นเก็บหลักหมื่นและใช้ชีวิตได้ราบรื่นไม่ขัดสนเหมือนปีที่ผ่านๆ มาก็พอแล้วเนอะ เอาไว้ปีต่อไปค่อยเริ่มเป้าใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
1.ทำร า ยรับ – ร า ยจ่ายให้เป็นนิสัย
การทำบัญชีร า ยรับร า ยจ่ายมีอยู่สองบัญชีหลักที่ควรทำคือ ร า ยรับ-ร า ยจ่ายประจำเดือน และ ร า ยรับ-ร า ยจ่ายประจำวัน โดยร า ยรับร า ยจ่ายประจำเดือนนั้นจะทำให้เราเห็นภาพกว้างว่าแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นค่าอะไรบ้าง
จากนั้นเอาร า ยจ่ายประจำเดือน มาดูว่ามีส่วนไหนที่สามารถตัดออ กได้ไหมถ้าไม่จำเป็น หรือมีร า ยจ่ายไหนที่กำลังจะเคลียร์หมดแล้ว เราจะวางแผนได้ดีขึ้นในการจัดการร า ยจ่ายประจำ ส่วนร า ยจ่ายประจำวัน มีไว้สำหรับสำรวจตัวเองว่าแต่ละวันเราใช้เ งิ นไปกับสิ่งไหน
เพื่อที่จะเอามาวิเ ค ร า ะห์ในทุกสิ้นเดือนว่า เราใช้เ งิ นไปกับสิ่งที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นแค่ไหน บางครั้งการบอ กตัวเองว่ามื้อนี้กินบุฟเฟ่ต์แค่ 700 บาทครั้งเดียวไม่เป็นไร
หรือซื้ อเสื้อผ้าไป 2,000 บาทเดือนละครั้ง ก่อให้เกิดร า ยจ่ายน้อยกว่าการใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ แต่จ่ายทุกวันเ สี ยอีก ซึ่งถ้าเห็นว่าเราจ่ายเ งิ นในแต่ละวันกับอะไรเราจะรู้ว่าควรตัดสิ่งใดออ กไป
2.ลงทุ นเพื่อเพิ่มมูลค่าให้เ งิ นเก็บ
มีเ งิ นเก็บในธนาคารก็ดี แต่จะไม่ดีเท่าไหร่ถ้าเก็บเอาไว้เฉยๆ เพื่อรอ กิน ด อ ก เ บี้ ย เ งิ นฝากประจำที่ก็น้อยมาก การเก็บเ งิ นที่ถูกวิ ธีคือ การเก็บเ งิ นแล้วงอ กเงยเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นลองศึกษาเรืองการลงทุ นเพิ่มเติม การลงทุ นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้คุณเอาเ งิ นไปซื้ อหุ้น
หรือทุ่มกับการเก็งกำไรอสังหาริมท รั พ ย์ อ ย่ าเพิ่งเปรี้ยวขนาดนั้น แต่เป็นการลงทุ นกับสิ่งที่มี ค ว า ม เ สี่ ย ง พอรับได้ และได้ผลตอบแทนดีกว่า ด อ ก เ บี้ ย เ งิ นฝาก
เช่น เข้าโครงการกองทุ นสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทจัดให้, ซื้ อ กองทุ น R M F / L M F หรือซื้ อประกันแบบออมเ งิ น การลงทุ นเหล่านี้นอ กจากจะมี ค ว า ม เ สี่ ย ง ไม่มากแล้ว
ยังมีผลประโยชน์คุ้มครองเช่น ได้ทุ นประกันชีวิต หรือ การลดหย่อนภาษี หากคุณเอาเ งิ นไปดองในธนาคารเฉยๆ นอ กจากมูลค่าจะไม่เพิ่มแล้วยังลดลงเพราะเ งิ นเฟ้ออีกด้วย
3.สำรวจห นี้ของตัวเองก่อนเริ่มเก็บเ งิ น
ก่อนจะมีเ งิ นเก็บสำคัญที่สุดคือเราต้องรู้ก่อนว่ามีห นี้เท่าไหร่ที่ต้อง ผ่ อ น ทุกเดือน เช่น ห นี้บัตรเครดิต ห นี้ค่า ผ่ อ น รถ ห นี้บ้าน ห นี้อื่นๆ
แล้วมาวิเคราะห์ดูว่าห นี้ไหนที่ต้องจัดการเร่งด่วนแล้วจัดการให้จบๆ ไป โดยวิ ธีคิดและจัดการห นี้คือจัดการห นี้ที่ก่อให้เกิดร า ยจ่ายเพิ่มเพิ่มก่อน
ยกตัวอ ย่ างเช่นเราต้อง ผ่ อ น บัตรเครดิต กับ ผ่ อ น รถทุกเดือน ซึ่งห นี้ที่มีโอกาสเพิ่มร า ยจ่ายให้เราก็คือบัตรเครดิต เพราะเราอาจจะจ่ายแต่ขั้นต่ำ
หรือเอาบัตรไปรูดซื้ อสินค้าบางอ ย่ าง นั่นทำให้ห นี้บัตรเครดิตแทบจะเป็น อ ม ต ะ ทำยังไงก็ ฆ่ า ไม่ ต า ย ขณะที่ห นี้ ผ่ อ น รถ
ถ้า ผ่ อ น ต ามกำหนดเดี๋ยวก็หมดเอง และไม่มีร า ยจ่ายงอ กมาจากห นี้ส่วนนี้ พอรู้แล้วว่าห นี้ไหนที่ก่อให้เกิดร า ยจ่ายก็พย าย าม กั ด ฟั น
จัดการไปก่อนให้จบๆ เป็นใบๆ ไป จากนั้นค่อยเริ่มคิดเรื่องเ งิ นเก็บก็ไม่สาย ปีนี้เก็บไม่ทันก็ไปเริ่มต้นใหม่ปีหน้าแค่อ ย่ าสร้างห นี้เพิ่มก็พอ
4.ใช้บัตรเครดิตให้เป็น
บัตรเครดิตคือ กับดักของชนชั้นล่างและชนชั้นกลางที่เอาเ งิ นในอนาคตมาใช้ก่อนเพื่อซื้ อของที่อย ากได้ แล้วก็ค่อย ผ่ อ น ขั้นต่ำโดยที่ระหว่างนั้นก็เผลอสร้างห นี้ขึ้น มาเรื่อยๆ โดยคิดแค่ว่า ผ่ อ น ขั้นต่ำได้
แต่พอ ผ่ อ น จริงๆ แล้วเ งิ นต้นไม่ลด แถมห นี้ก็งอ กมาเรื่อยๆ ราวกับตัดหัวไฮดร้าที่ตัดยังไงก็ไม่หมด ในความเป็นจริงแล้วการใช้บัตรเครดิตที่ถูกต้องคือใช้เท่าไหร่จ่ายกลับคืนไปเท่านั้นโดยที่เราไม่กระทบกับเ งิ นสดที่มีไว้ใช้ในแต่ละเดือน การใช้บัตรเครดิตที่วางแผน มาดี
นอ กจากเราจะไม่เป็นห นี้แล้ว เรายังได้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษของบัตรแต่ละใบที่คืนกำไรให้เราในอนาคต หากอย ากมีเ งิ นเก็บก็จัดการตัวเองเรื่องการใช้บัตรเครดิตให้เป็นก่อน
5.กำหนดเป้าหมายด้วยการวางแผนการเ งิ น
การวางแผนการเ งิ นเป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้การทำร า ยรับ-ร า ยจ่าย เนื่องจากทำให้เราเห็นสถานะทางการเ งิ นของตัวเองที่ชัดขึ้นตลอ ดทั้งปี
การวางแผนการเ งิ นคือ การกำหนดเป้าหมายของเราว่าปีนี้เราจะมีเ งิ นเก็บเท่าไหร่ และจะไปสู่เ งิ นเก็บนั้นด้วยวิ ธีไหนบ้าง จากนั้นค่อยมาลงร า ยละเอียดยิบย่อยเพิ่มเติมว่าจะไปสู่เป้าหมายด้วยวิ ธีไหน
สมมติเราตั้งเป้าว่าจะมีเ งิ นเก็บ 50,000 บาทให้ได้ในปีนี้ก็จะรู้แล้วว่าแต่ละเดือนควรเก็บเ งิ นเท่าไหร่บางคนใช้สูตรเก็บเ งิ น 10 เดือน อีก 2 เดือนเอาเ งิ นที่ควรจะเก็บไปให้รางวัลตัวเองก็ได้
จากนั้นก็จะมาดูร า ยจ่ายในแต่ละเดือนว่าจะใช้เ งิ นได้แค่ไหน ช่วงเดือนไหนสามารถไปเที่ยวหรือซื้ อของที่ตัวเองอย ากได้โดยที่ไม่กระทบแผนการเ งิ น การวางแผนจะทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้ดีขึ้นชัดเจน เห็นอนาคตที่เราจะมีเ งิ นเก็บ
6.นำเ งิ น 20 – 30เปอร์เซน ของเ งิ นเดือนฝากธนาคารทันที
หล า ยคน มีความคิดว่า เ งิ นเก็บ = เ งิ นที่เหลือจากการใช้จ่ายแต่ละเดือน นั่นคือเหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ ซึ่งก็ดีที่แต่ละเดือนเรามีเ งิ นเหลืออยู่บ้าง แต่มันไม่สม่ำเสมอและเราไม่สามารถบังคับตัวเองให้เก็บเ งิ นได้เป็นก้อนได้มากกว่าการเอาเ งิ นส่วนหนึ่งจากเ งิ นเดือน
ไปฝากธนาคารทันทีที่เ งิ นเดือนเข้าบัญชี เป็นการหักดิบบีบบังคับให้เราเก็บเ งิ นนั่นเอง การเก็บเ งิ นด้วยวิ ธีนี้จะทำให้เ งิ นของเรามีมูลค่ามากกว่าเหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ และเป็นการบังคับตัวเองในเรื่องการใช้จ่ายได้ดีกว่า
ส่วนเ งิ นเก็บนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราไหวที่เท่าไหร่ 20 – 30เปอร์เซน ของเ งิ นเดือนก็ว่ากันไป แล้วคุณจะเห็นว่าสิ้นปีคุณจะมีเ งิ นเก็บมากกว่าปีก่อนๆ แน่นอน แม้จะแลกมาด้วยความสะดวกสบายในการจับจ่ายที่ลดลง แต่คุณจะเห็นผลตอบแทนในระยะ ย า วที่คุ้มค่า
7.ประหยัดในสิ่งที่จำเป็นๅ
คำว่า ประหยัด ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้คุณใช้ชีวิตอ ย่ างลำบากอ ดมื้อ กิน มื้อเพื่อเก็บออม แบบนั้นไม่แนะนำ แต่คำว่าประหยัดหมายถึงจับจ่ายเท่าที่จำเป็น คำว่า ของมันต้องมี เนี้ย เป็นวลีที่ไม่ควรไปเชื่อคำยุเด็ดขาด
เพราะนอ กจากคุณจะมี ของ เพิ่มเข้ามาในชีวิตแล้ว คุณก็จะไม่ได้อะไรเพิ่มอีกเลยที่ก่อให้เกิดมูลค่า ดังนั้นเวลาจะซื้ ออะไรลองมองย้อนดูก่อนว่าซื้ อแล้วเราจะเดือ ดร้อนไหม ห นี้เก่าหมดหรือยังจะสร้างห นี้ใหม่น่ะ
ถ้าซื้ อแล้วต้องมาคิดแบบนี้อ ย่ าเพิ่งซื้ อ เข้าใจอยู่ว่าบางทีก็เลี่ยงไม่ได้ ของบางอ ย่ างเราอย ากจะได้จริงๆ หรือจำเป็นจริงๆก็ซื้ อไปถ้าไม่เดือ ดร้อน
หรือไม่กระทบแผนการเ งิ นที่เราวางไว้ ดังนั้นเราถึงอย ากให้วางแผนทางการเ งิ นเสมอทุกปีแล้วจะเห็นว่าช่วงไหนจ่ายได้ ช่วงไหนควรเก็บ แต่ที่สุดแล้วความประหยัดนี่แหละจะนำมาซึ่งความมั่นคง
ที่มา mangozero sabailey