8 ข้ อคิดการเ งิ น เปลี่ยนชีวิตการเ งิ นของคุณให้ดีขึ้น

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ความเป็นไปของชีวิตเรา ส่วนหนึ่งถูกกำหนดมาจากเ งิ น ต้องทำงานเพื่อให้ได้เ งิ น ประเด็นคือ แล้วเ งิ นที่เราได้มานั้น ถูกนำไปจัดสรรบริหารอ ย่ างถูกต้องจริงหรือไม่

เพื่อเป็นความรู้พื้นฐานในการใช้จ่ายเก็บออม นำเ งิ นไป ล ง ทุ น ซึ่งไม่ควรรู้เพียงวิ ธีการจัดการทางการเ งิ นอ ย่ างเดียว แต่ควรรู้ไปถึงวิ ธีการจัดสรรชีวิตตนเองด้วย ร า ยละเอียดดังนี้

1. เ งิ นออ กต้องน้อยกว่าเ งิ นเข้า

วิ ธีเดียวที่จะช่วยทำให้เกิดความมั่นใจในฐานะการเ งิ นได้ คือ การมีเ งิ นเหลือจนถึงสิ้นเดือน แสดงให้เห็นว่า กระแสเ งิ นสดไหลออ กไปน้อยกว่าร า ยได้ที่ไหลเข้ามา แม้ว่าสถานะการเ งิ นตอนนี้ จะไม่มีเหลือเก็บออมหรือ ล ง ทุ น แต่อ ย่ างน้อยก็ไม่ควรเป็นห นี้

การดำเนินชีวิตแบบใช้เ งิ นอนาคตในสินท รั พ ย์จำเป็น เช่น บ้าน จริงอยู่ที่มันตอบสนองความต้องการด้านที่อยู่อาศัยได้ทันที แต่ก็ อั น ต ร า ย หากต้องแบกรับภาระห นี้ก้อนโต ในช่วงที่ความสามารถทางการเ งิ นยังมีไม่มากพอ ดังนั้น กระแสเ งิ นสดไม่ว่าจะไหลเข้าหรือไหลออ ก

จึงควรมาจากสิ่งที่วางแผนไว้ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญแบบไม่มีที่มาที่ไปหรือไร้ประโยชน์ การ รั ก ษ า ความสามารถทางการเ งิ นจากการล ดค่าใช้จ่ายในสิ่งไม่จำเป็น ประเมินและจัดลำดับความสำคัญทางการเ งิ นอ ย่ างระมัดระวัง อาจจะสร้างความ อึดอัดเล็กน้อยในวันนี้ เพื่อความมั่นคงทางการเ งิ นที่ดีในอนาคต

2 . สินท รั พ ย์ที่มีค่าที่สุด คือ ตัวเราเอง

เมื่อถึงวัยเกษียณอายุ หล า ยคนเกษียณพร้อมกับเ งิ นก้อนโต ต ามระดับความสามารถของตน ต ามตำแหน่งหน้าที่การงานที่สิ้นสุดลง เป็นเ งิ นก้อนสุดท้ายที่ใช้ดำเนินชีวิตหลังเกษียณ ช่วงชีวิตที่ไม่มีร า ยได้อีกต่อไป แน่นอนว่าโอกาสที่เราจะใช้เ งิ น ย า ม ช ร า แบบสบายๆเป็นเรื่องที่ ย า ก

เมื่อถึงเวลานั้น ความคิดที่ว่า จะใช้เ งิ นส่วนนี้ไปกับการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก คงเป็นเพียงเรื่องลอยลม เพราะนอ กจากการใช้จ่ายอยู่กินแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญที่หลีกเลี่ยงได้ ย า ก อ ย่ างการ รั ก ษ า ความ เ จ็ บ ป่ ว ย

โอกาสที่เ งิ นก้อนนั้นของคุณจะกล า ยเป็นค่า รั ก ษ า พ ย า บ า ล ตัวเองจึงสูงมาก ดังนั้น การดำเนินชีวิตแบบสมดุลทั้งกายและใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด รั ก ษ า สุ ข ภ า พ การกินการออ กกำลังกาย ให้เหมือนกับ การ รั ก ษ า เ งิ นทองในธนาคาร

3. แบ่งจ่ายตัวเองก่อนเสมอ

กฎทองของการเ งิ นส่วนบุคคล หมายความว่า เราควร แบ่งจ่ายตนเองเพื่อ การออมและการ ล ง ทุ น ก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ ส่วนที่เหลือค่อยนำไปใช้จ่ายคนอื่น เรื่องง่ายที่ใครก็รู้ แต่ ย า ก ที่จะทำ ดังนั้น

ควรสร้างระบบตัดเ งิ นอัตโนมัติการบัญชีเ งิ นเดือนของคุณ ทันทีที่มีเ งิ นเดือนเข้า มันจะถูกตัดไปบัญชีเพื่อ การ ล ง ทุ น และบัญชีเ งิ นออมก่อนเสมอ เช่น กองทุนรวม บัญชีเ งิ นฝากประจำ เป็นต้น เลือ กเงื่อนไขต ามความมีระเบียบวินัยในตัวเอง

4 . ระดับเ งิ นกับระดับความสุขไม่เกี่ยวข้ องกันเสมอไป

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกอ ย่ างทำให้ดูเหมือนว่า ชีวิตนี้จะต้องร ว ยเท่านั้น ถึงจะสบายได้ สร้างภาพลวงต าว่า มีเ งิ น มากขึ้น จะทำให้เรามีความสุขมาก

ขึ้น สังเกตได้จาก ร า ยได้เฉลี่ยประชากรในตัวเมืองย่อมสูงกว่าพื้นที่ชานเมืองออ กไป คำถามคือ คนที่ย้ายเข้ามาทำงานในเมืองมีความสุขเพิ่มขึ้นหรือไม่

คำตอบ คงสะท้อนภาพการใช้ชีวิตคนเมืองที่ดูต้องเร่งรีบ รับแรงกดดันในการทำงาน และแข่งขันกับเวลาอยู่ตลอ ดเวลา แสดงว่า ร า ยได้ที่ได้รับเพิ่มมากขึ้น 20 เปอร์เซน ไม่ได้ทำให้ความสุขเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซน เลยสักนิด

ทั้งนี้ แน่นอนว่า เ งิ นสามารถซื้ อความสะดวกสบายและความปลอ ดภั ยในชีวิตได้ และส่งผลต่อระดับความมั่นคงทางการเ งิ นได้ แต่ไม่เสมอไปสำหรับความคิดที่ว่า ฉันจะได้รับความสุขมากขึ้น เมื่อฉัน มีเ งิ น มากขึ้น

5. เปรียบเทียบความสามารถในการสร้างร า ยได้และร า ยจ่าย

หล า ยครั้งที่เราใช้จ่ายเ งิ นออ กไม่โดยไม่รู้ตัว เป็นเพราะไม่ทราบต้นทุนด้านเวลาของตัวเอง ยกตัวอ ย่ างเช่น เ งิ นเดือน 20000 บาท เวลางาน 176 ชม.ต่อเดือน (= 22วัน x 8ชม) เฉลี่ยร า ยได้ 114 บาทต่อชม. ( = 20000/176)

แสดงว่าการกิน บุ ฟ เ ฟ่ ต์ ปิ้ ง ย่างราคา 500 บาทในเวลาชั่ วโมงครึ่ง ต้องแลกกับการทำงานครึ่งวัน เป็นต้น การเปรียบเทียบความสามารถทางร า ยได้กับสิ่งที่เรากำลังจะใช้จ่ายไป

ในหน่วยเวลาเหมือนกัน จะช่วยดึงสติการใช้จ่ายไม่เป็นเหตุเป็นผลของเรากลับมาได้ ลักษณะนี้ยังสามารถ ประยุกต์ใช้กับการว่าจ้างคนงานในลักษณะงานไม่สำคัญ

เช่น การทำงานบ้าน การทำงานที่เ สี ยเวลาและไม่มีความสำคัญ เป็นต้น หากการจ้างงานนั้น มีต้นทุนที่ถูกกว่าการเ สี ยเวลาลงมือทำเอง เพราะจากชั่ วโมงเดียวกัน เราสามารถใช้ให้ก่อประโยชน์เกิดร า ยได้ที่สูงกว่าค่าจ้างที่เราจ่ายไป

6. อ ย า ก เปลี่ยนผลลัพธ์ ต้องเปลี่ยนที่สาเหตุ

ทำสิ่งเดิม ผลลัพธ์ย่อมออ กมาแบบเดิมต ามที่เคยได้รับ เปรียบเช่นเดียวกับ การทำพฤติก ร ร มทางการเ งิ นผิ ดๆเหมือนในอ ดีต ย่อมสร้างปัญหาการเ งิ นอ ย่ างที่เคยเป็น มาในอ ดีด หากยังไม่หยุดคิดที่จะเริ่มปรับปรุงพฤติก ร ร มทางการเ งิ นหรือสร้างความมั่งคั่ง อาจจะต้องปรับทัศนคติใหม่อ ย่ าง รุ น แ ร ง

ต้องลองอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมอ ย่ างสิ้นเชิง เช่นย้ายที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ใช้รถคันเก่าแทนการเป็นห นี้รถคันใหม่ การหางานใหม่ที่ให้เ งิ นเดือนที่ดีกว่าเดิม เริ่มต้นธุรกิจหาร า ยได้เสริม เป็นต้น คนประสบความสำเร็จทั่วไปไม่ได้ฉลาดหรือโชคดีกว่าคนอื่น เพียงแต่พวกเขาเลือ กใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเห็นคุณค่าการดำเนินชีวิตกว่าคนทั่วไป ดังนั้น ควรคิดอ ย่ างรอบคอบว่า พฤติก ร ร มตัวเราในตอนนี้ สามารถนำพาเราเข้าใกล้เป้าหมายได้จริงไหม

7. ยิ่ง ล ง ทุ น เร็ว ยิ่งสำเร็จเร็ว

หนึ่งในแนวคิดทางการเ งิ นที่สำคัญที่สุด และเป็นความจริงที่เข้าใจได้อ ย่ างดีที่ว่า ยิ่ง ล ง ทุ น เร็ว ยิ่งได้เปรียบในเรื่องประสบการณ์ความรู้และระยะเวลาที่ใช้ ล ง ทุ น ในชีวิต แม้จะไม่ได้เป็นเรื่องง่าย แต่ก็เป็นประเด็นที่สามารถสร้างข้ อแตกต่างระหว่างความ ย า ก จน

และความมั่นคั่งในอนาคตได้ เพราะพลังการทบต้นของผลประโยชน์จากการ ล ง ทุ น เป็นเรื่องอัศจรรย์ ดังนั้น อ ย่ ารอช้าในการเริ่มต้นวางแผนออม และ ล ง ทุ น ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อ การเกษียณอายุจะไม่สายเกินไปในชีวิตการทำงานของเรา เริ่มต้นนิสัยของการ ล ง ทุ น ขั้นต่ำ 10 เปอร์เซน ถึง 15 เปอร์เซน ของร า ยได้ทุกเดือน ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นในชีวิตก็ต าม

8. อ ดีตผ่านไปแล้ว การเ งิ นเริ่มต้นที่ปัจจุบัน เป้าหมายคืออนาคต

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ขอเปรียบเทียบดังนี้ ในโลกธุรกิจ จะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น มาแล้ว แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้รับประโยชน์ ที่เรียกว่า ต้นทุนจม สมมติว่า บริษัทขุดเจาะน้ำมัน ใช้งบ ล ง ทุ น มากมายในการขุดเจาะค้นหาน้ำมัน

ขุดไปลึกเท่าใดก็ยังไม่เจอน้ำมันสักที ประเด็นที่เกิดขึ้น คือ จะยังขุดต่อไป หรือ เปลี่ยนตำแหน่งขุดใหม่ดี สะท้อนให้เห็นว่า การตัดสินใจปัจจุบันขึ้นอยู่กับว่า ทำอะไรแล้ว จะเกิดสิ่งที่ดีที่สุดในอนาคต ไม่ได้ย่ำอยู่กับอ ดีตที่ผิ ดพลาดและ เ จ็ บ ป ว ด การเ งิ นส่วนบุคคลก็เช่นกัน

เราทุกคนล้วนเคยมีต้นทุนจม ที่รอคอยความคาดหวังว่าจะได้ทุนกลับคืน มา เช่น ล ง ทุ น ผิ ดจังหวะ ใช้จ่ายซื้ อของไร้ประโยชน์ เป็นต้น การรอคอยบนพื้นฐานข้ อผิ ดพลาดในอ ดีตไม่มีประโยชน์ต่อความสำเร็จใดๆ เก็บสิ่งผิ ดพลาดในอ ดีตเป็นบทเรียน แล้วตัดสินใจ เลือ กทำสิ่งปัจจุบันที่ก่อประโยชน์ที่ดีที่สุดในอนาคตย่อมดีกว่า

ที่มา  sabailey