แต่ละคน มีการสร้างฐานะให้ตัวเองที่แตกต่างกันออ กไป หล า ยคนทำสำเร็จเพราะทำถูกทาง ถูกวิ ธี แต่หล า ยคนไม่ประสบความสำเร็จ ฉนั้นวันนี้เราจะพาคุณมาดูกันว่า วิ ธีที่ถูกต้องในการช่วยสร้างความมั่นคงด้านการเ งิ นให้กับคุณนั้นทำยังไง
1.การจำลองแผนการลงทุน
เมื่อเราวิเคราะห์ตนเอง คำนวณกระแสเ งิ นสดที่ควรจะเป็น และวางแผนครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นออ กมาแล้ว เราจะมองเห็น เ งิ นเหลือเก็บ ได้อ ย่ างชัดเจน หน้าที่ของเราต่อจากนี้ก็คือ การวางแผนลงทุน ทำเ งิ นเหลือเก็บให้งอ กเงยครับโดยแผนการลงทุน มีดังต่อไปนี้
นำเ งิ นไปฝากประจำ ผลตอบแทนที่คาดหวัง 23เปอร์เซน
นำเ งิ นไปซื้ อพันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนที่คาดหวัง 35เปอร์เซน
นำเ งิ นไปซื้ อ กองทุนรวม ผลตอบแทนที่คาดหวัง 510เปอร์เซน
นำเ งิ นไปลงทุนในหุ้น ผลตอบแทนที่คาดหวัง 1015เปอร์เซน เมื่อเราลองจำลองผลตอบแทนจากการลงทุนออ กมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วขอให้เข้าสู่คำแนะนำสุดท้ายกันเลยครับ
2.คำนวณกระแสเ งิ นสดของเรา
เมื่อเราสำรวจตัวเองเพื่อวางแผนทางการเ งิ นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คำแนะนำต่อมาก็คือ ลองคำนวณกระแสเ งิ นสดในแต่ละเดือนของเรา กระแสเ งิ นสดที่นำมาคำนวณต้องเป็นตัวเลขที่เกิดจากการนำร า ยได้หักออ กด้วยร า ยจ่ายทั้งหมด เป็นกระแสเ งิ นสดเหลือเก็บ ยกตัวอ ย่ างเช่น เรามีเ งิ นเหลือเก็บเดือนละ 5000 บาท เท่ากับว่าปีหนึ่งๆ เราสามารถเก็บเ งิ นได้อ ย่ างน้อย 6 หมื่นบาทต่อปี จากนั้นเข้าสู่คำแนะนำที่ 3 กันเลยครับ
3.จัดพอร์ตการลงทุนเพื่ออนาคต
จากการจำลองผลตอบแทนจากการลงทุนเราจะพบว่า เราสามารถลงทุนและรับผลตอบแทนได้ตั้งแต่ 215เปอร์เซน ต่อปี ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ หน้าที่ของเราก็คือ การแบ่งเ งิ นเหลือเก็บมาลงทุน โดยการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่ออนาคตนั้น
จะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ครับ หากเราอายุยังน้อย และรับความเสี่ยงได้สูง ก็ควรนำเ งิ นไปลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่มากหน่อย แต่ถ้าเรายอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ ก็ควรนำเ งิ นไปฝากประจำ หรือซื้ อพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอน ความเสี่ยงที่ต่ำกว่าครับ
วิ ธีการที่แน่นอนก็คือ เราต้องมี วินัย ในการออม การลงทุนระยะย าว หากเราสามารถลงทุน และทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ในช่วง 510เปอร์เซน ต่อปี เราจะสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนให้เติบโตได้ 1 เท่าตัว ภายในระยะเวลา 57 ปีครับ
4.สำรวจตัวเองก่อนวางแผนทางการเ งิ น
ก่อนที่เราจะวางแผนทางการเ งิ นเพื่อฐานะที่มั่นคง เราจะต้องสำรวจตนเองก่อนว่าเรามีสินท รั พ ย์เท่าไร มีห นี้สินเท่าไร มีกระแสเ งิ นสดต่อเดือนเท่าไร สินท รั พ ย์ที่เรามีนั้นเป็นสินท รั พ ย์ที่มีมูลค่าเพิ่มต ามกาลเวลา
หรือเป็นสินท รั พ ย์ที่ด้อยมูลค่าต ามกาลเวลา ห นี้สินที่เรามีมากกว่าสินท รั พ ย์หรือไม่ มากเกินกว่ากำลังจ่ายของเราหรือเปล่า เมื่อเราสำรวจตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ที่ควรจะได้ก็คือ เ งิ นเหลือเก็บ ในแต่ละเดือน
5.จดบันทึกค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
เมื่อเรารู้ตนเองแล้วว่าเรามีสินท รั พ ย์เท่าไร มีห นี้สินเท่าไร มีเ งิ นเหลือเก็บอยู่เท่าไร จากนั้นเราต้องจดบันทึกค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในปัจจุบัน และอนาคตของเราออ กมา เช่น ค่าโปะบ้าน ค่าประกันชีวิต ค่าเทอมลูกในอนาคต ค่าเดินทางท่องเที่ยว เป็นต้น การจดบันทึกค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบัน และอนาคต จะทำให้เราต้องวางแผนล่วงหน้าเก็บเ งิ นสะสม เวลาที่ค่าใช้จ่ายเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง จะได้ไม่เกิดอาการ ช็อตเ งิ น หรือหมุนเ งิ นไม่ทันนั่นเองครับ จากนั้นให้เข้าสู่คำแนะนำที่ 4
ที่มา forlifeth