2 คำพูดที่ควรพูดอยู่เสมอ ในที่ทำงาน

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ประโยคคำพูดที่ควรพูดอยู่เสมอๆ ในที่ทำงาน เพื่อ การทำงานที่ราบลื่น กับบทความ 2 คำพูดที่ควรพูดอยู่เสมอ ในที่ทำงาน ไปดูกันว่าจะต้องพูดคำพูดใดบ้าง

ในการทำงานอะไร ก็แล้วแต่นั้นการสื่อสารและต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น คงจะเป็นสิ่งที่ ต้องเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ ซึ่งแน่นอนว่าการในแต่ละวันนั้นคุณจะต้องพูดคุย แลกเปลี่ยน โน้มน้าว เจรจากับคนอื่นอยู่เสมอๆ พอพูดถึงเรื่องนี้ ผมเลยนึกถึงสิ่งที่ ผมมักจะ สอนน้องๆ ของผมอยู่บ่อยๆ ว่าพวกเขาต้องหัดพูด 2 คำให้เป็นนิสัยให้ได้ และถ้าทำได้แล้วล่ะก็ มันจะเป็นผลดีกับพวกเขามากๆ ซึ่ง 2 คำที่ว่านั้นคือ

‘ ขอโทษ’ และ ‘ ขอบคุณ’

มันอาจจะเป็น สองคำง่ายๆ ที่ผมเชื่อว่าหล า ยๆ คน คงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องโคตรจะธรรมดา หรือไม่เห็นว่ามันจะสำคัญอะไรแต่เอาจริงๆ ผมว่ามันคือหัวใจที่ทำให้หล า ยๆ คนประสบความสำเร็จในการทำงานกับคนอื่นเลยก็ว่าได้ คำว่า ‘ ขอโทษ’ แม้ว่าจะอาจจะทำ ให้คุณดู เป็นคนผิด ดู แ ย่ หรือดูในแง่ลบ แต่เอาจริงๆ แล้วการพูดว่าขอโทษอย่ างจริงใจ และรู้สึกกับมันเวลาที่คุณ ทำอะไรผิดพลาดก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลดทิฐิของทั้งตัวคนเองและคนรอบๆ ข้างที่ต้องทำงานร่วมกับคุณ

ลองคิดดูถึงสถานการณ์ประเภทที่มีอะไรไม่เป็นไปต ามแผน แล้วทุกคนเอาแต่บอ กว่า ตัวเองไม่ผิด เรื่องนี้คนผิดไม่ใช่ฉัน แล้วก็มองหน้ากัน หรือรู้ตัวคนผิดแล้วเจ้าตัวยังขึงขัง มองว่าตัวเองไม่ผิดอยู่วันยังค่ำ พอเป็นแบบนี้แล้วบรรย ากาศการพูดคุยคงลำบากน่าดูแถมจะทำ ให้การพูดคุยต่อไปเต็มไปด้วยมุมมองที่คงจะไม่ดีสักเท่าไร นอ กจากนี้แล้ว การขอโทษในบางครั้งก็เป็นการประนีประนอม และทำให้งานเดินต่อไปได้ ผมเองก็ประสบหล า ยๆ สถานการณ์อยู่เหมือนกัน

ที่แม้ตัวเองอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องเป็นผู้รับผิดชอบอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ผมก็เลือ กเป็นผู้ที่ขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบ จนหล า ยๆ คนก็มาถามผมทีหลัง ว่าทำไมทำเช่นนั้น ทำไมต้อง ‘ ยอม’ ด้วย ซึ่งผมก็ให้คำตอบไปว่าถ้าเราไม่ยอมเขาในวินาทีนั้นแล้ว การพูดคุยที่เหลือก็คงเกิดขึ้นไม่ได้ หรือบางทีอาจจะเกิดการขัดแย้งที่หนักกว่าเดิมก็ได้ฟังๆ ดูจะเห็นว่า มันก็คงไม่ใช่ เรื่องใหญ่อะไร แต่ในสถานการณ์จริงนั้น เรามักจะเห็นว่าการขอโทษนี่แหละที่มักไม่ได้เกิดขึ้นกันง่ายๆ แถมก็จะเจอหล า ยๆ สถานการณ์ที่คน มักบ่นว่า ‘ ทำไมเรื่องแบบนี้ไม่คิดจะขอโทษสักคำ’ นั่นแหละ

หล า ยคนอาจจะมองว่าการขอโทษเป็นการทำให้ตัวเองดูอ่อนแอ ดูไม่มีพลังแต่จริงๆ แล้วถ้าเราฉลาดที่ขอโทษ หรือรู้จังหวะที่ขอโทษแล้ว มันคือศิลปะ อย่ างดีในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น การขอโทษในบางเรื่องก็เป็นการแสดงความนอบน้อม และทำให้คนอื่นเห็นว่าคุณเองก็ให้เกียรติและเคารพเขาด้วย ไม่ใช่มองว่าตัวเองเหนือ กว่าไปเสียทุกเรื่องไปในขณะเดียวกัน การ ‘ ขอบคุณ’ ก็เป็นอีกสิ่งที่แสดง ความมีน้ำใจ และแสดงให้คนอื่นๆ เห็นว่าคุณ ‘ มองเห็น’ พวกเขาอยู่ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงคำที่อาจารย์ผมสอนเสมอๆ เวลาทำงานละครเวทีคือเราจะให้เกียรติกับทุกคน ที่ทำงานกับเราไม่เว้นแม้แต่นักการหรือเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโรงละคร ซึ่งคนทำงานจะยิ้มให้ และกล่าวขอบคุณในทุกๆ วันได้เจอหน้ากันและคำว่า ‘ ขอบคุณ’ นี่เองทำให้คุณฟังเองเกิดรอยยิ้ม และรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองได้ทำไปนั้น มีคุณค่า

ซึ่งจะกล า ยเป็นแรงใจให้เขาอย ากทำงานดีๆ ต่อ เช่นเดียวกับที่ตัวคนพูด เองก็ได้หยุด ตระหนักคิดถึงสิ่งที่คนอื่นทำให้กับตัวเองเช่นกันพอเป็นอย่ างนี้แล้วทุกครั้งที่เราพูดว่า ‘ ขอบคุณ’ ( อย่ างจริงใจ ) มันจึงมักทำให้ทั้งคนพูดและคนฟัง เกิดรอยยิ้มและรู้สึกดีต่อ กันอยู่เสมอๆ และนั่นก็กล า ยเป็นหัวใจสำคัญ ที่พลักดันการทำงานร่วมกันในที่ทำงานนั่นแหละ 2 คำดังกล่าวนี้อาจจะไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าเรา ลองพูดกันให้บ่อย ให้เป็นธรรมช าติแล้วล่ะก็ ผมเชื่อว่ามันจะทำให้การทำงานในออฟฟิศ มีบรรย ากาศที่ดีขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียวนะครับ

ที่มา n u t t a p u t c h, y i n d e e y i n d e e